วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552

“ท่าเรือ” แม่นโทษเฉือน “มังกร” คว้าเอฟเอคัพ


ทัพนักเตะ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี โชว์ความแม่นในการสังหารจุดโทษ พลิกคว่ำ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ พร้อมเงินสด 1 ล้านบาท

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ 2009 ดำเนินมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน อันดับ 4 ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก พบกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของลีกสูงสุดเช่นกัน ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2552

เริ่มครึ่งแรกทีมดังจากทุ่งหนองจอก เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก กระทั่งนาทีที่ 15 ของการแข่งขัน จึงได้ประตูออกนำไปก่อน เมื่อ กิตติพล ปาภูงา กองกลางทีม “มังกรไฟ” เปิดบอลจากด้านซ้ายไปที่เสาสอง บอลลอยมาเข้าทาง วุฒิชัย ทาทอง หัวหอกจอมลีลา ลอยตัวขึ้นโขกบอลพุ่งเข้าประตู ส่งให้ บีอีซี ออกนำไปก่อน 1-0

หลังเสียประตูแรกทีม “สิงห์เจ้าท่า” พยายามเปิดเกมบุกเพื่อเรียกประตูคืน นาทีที่ 22 จีรวัฒน์ มัครมย์ กองกลางจอมยิงไกลของทีมดังจากคลองเตย พยายามปั่นด้วยขวา แต่ก็หลุดกรอบออกไป ทว่า อีก 2 นาทีต่อจากนั้นความพยายามก็เป็นผล เมื่อ จีรวัฒน์ คนเดิมเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาหน้าประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่านบีอีซีฯ ปัดบอลมาเข้าทาง เอ็ดวัลโด ศูนย์หน้าชาวบราซิล ที่รูปร่างสูงใหญ่โหม่งเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1

ถัดมานาทีที่ 28 พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ ปั่นโค้งมาหน้าประตูให้ เอ็ดวัลโด ขึ้นโขกอีกครั้ง แต่ ปรัชญ์ สมัคราษฎร กองหลัง มังกรไฟ โหม่งบอลทิ้งออกไปได้ก่อน

ถึงนาทีที่ 38 บีอีซีฯ เริ่มกลับมาคุมเกมได้อีกครั้ง และมาได้โอกาสส่องไกลจาก นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ข้ามคานออกไป ถัดมาอีก 1 นาที ชลากร สงวนดี กองกลางมังกรไฟ ได้ซัดหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งตรงกรอบ ทว่า ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ นายทวาร สิงห์เจ้าท่า ยังพุ่งปัดเซฟไว้ได้ หลังจากนั้น ไม่มีทีมใดพังประตูเพิ่มได้ใน 45 นาทีแรก เสมอกันไป 1-1

เข้าสู่ 45 นาทีหลัง ทัพมังกรไฟ ยังคงคุมเกมบุกได้เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่การท่าเรือฯ ยังคงทีเด็ดที่จังหวะส่วนกลับเช่นเดิม เข้าสู่นาทีที่ 65 เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น หลังจาก ธฤติ โนนศรีชัย กองหลัง บีอีซีฯ ไม่พอใจคำตัดสินของเชิ้ตดำ จึงเตะบอลทิ้งออกข้างสนาม ทว่ากลับไปโดน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือท่าเรือ ทำเอาลูกทีมออกไปโวยปราการหลังมังกรไฟ พร้อมรับใบเหลืองเป็นรางวัลไป

นาทีที่ 68 ตะวัน ศรีปาน กุนซือมังกรไฟ แก้เกมด้วยการส่ง ชาคริต บัวทอง ลงมาเล่นแทน ชลากร สงวนดี ที่เริ่มบุกไม่ขึ้น ถัดมาอีก 3 นาที การท่าเรือฯ แก้ลำส่ง โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ อดีตนักเตะเก่าของบีอีซี แทน เกียรติเจริญ เรืองปาน

ล่วงมาถึงนาทีที่ 78 ทัพมังกรไฟ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ อานนท์ สังสระน้อย ดาวซัลโว 18 ประตูไทยลีกฤดูกาลนี้ ได้ซัดประตูในกรอบเขตโทษ แต่กลับซัดบอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น ถัดมาอีก 4 นาที นายด่านท่าเรือ ปัดลูกฟรีคิกมาเข้าทาง นเรศ กาพย์ไกรแก้ว ซัดตูมสวนเข้าไปก็ไม่ตรงกรอบประตู จากนั้นทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้ ครบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องมาดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

นาทีที่ 110 พิพัฒน์ ต้นกันยา หัวหอกการท่าเรือ พักบอลหน้ากรอบเขตโทษด้วยอก ก่อนซัดบอลเร็ว ทว่า ศิวรักษ์ นายทวารมังกรไฟยังเซฟได้ ถัดมาอีกเพียง 1 นาที ตะวัน แก้เกมอีกครั้ง ด้วยการถอด อาเรียน อคาซู กองกลางจอมขยันออก แล้วส่ง พิชิต ใจบุญ ลงไปแทน ช่วงท้ายเกมเจ้าท่าถอด อาลีฟ เปาะจิ ออก แล้วส่ง ธีรวุฒิ สันพันธ์ ลงเล่นแทน กระทั่งครบ 120 นาทีของการต่อเวลา ทั้งสองทีมทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นการท่าเรือที่แม่นกว่า สังหารเข้าไปทั้ง 5 คน ขณะที่ทีมมังกรไฟ ธฤติ โนนศรีชัย ซัดเป็นคนสุดท้ายบอลชนคาน ส่งให้ “สิงห์เจ้าท่า” ชนะ บีอีซี เทโรศาสน 5-4 สกอร์รวม 6-5 คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2009 ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และสิทธิ์เข้าแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี คัพ ในฤดูกาลหน้า ขณะที่ทีม บีอีซีฯ คว้ารองแชมป์รับเงินรางวัลปลอบใจไป 5 แสนบาท

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บีอีซี เทโรศาสน : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), กีร์ ฮูเบิร์ต, ปรัชญ์ สมัคราษฎร, ธฤติ โนนศรีชัย, นพพล ปิตะฝ่าย, ชลากร สงวนดี, กิตติพล ปาภูงา, จักรพันธ์ แก้วพรม , อาเรียน อคาซู, วุฒิชัย ทาทอง และ อานนท์ สังสระน้อย

การท่าเรือไทย เอฟซี : ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ (ผู้รักษาประตู), พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ, มอยส์ซี, มาริโอ ดา ซิลวา, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์, จีรวัฒน์ มัครมย์, อาลีฟ เปาะจิ, เกียรติเจริญ เรืองปาน, เอกชัย สำเร่, พิพัฒน์ ต้นกันยา และ เอ็ดวัลโด


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ซิโก้โอเคช่วยทีมชาติ,ร็อบสันตื่นเต้นเจอนักเตะ23ต.ค


"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตกลงรับปากสมาคมลูกหนังไทย ช่วยงานเป็นผู้ช่วยทีมชาติไทยแล้ว เบื้องต้นจะทำให้จบ เอเชียน คัพ และ ซีเกมส์ จากนั้นถ้าได้สโมสรคุม ก็สามารถ โบกมือลาได้ โดยทีมชาติไทยทั้งชุดใหญ่ และซีเกมส์ จะเข้ารายงานตัวกันวันที่ 23 ต.ค. นี้ ไบรอัน ร็อบสัน ตื่นเต้นที่จะได้เจอนักเตะ รับเรียนภาษาไทยยาก แต่จะพยายาม ส่วนศึก 4 เส้า "ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป" จะส่งแข้งลงสนามครบทุกคน เพื่อศึกษาแนวทาง และวิธีการเล่น ย้ำจุดยืนฉะลอดช่องต้องชนะรวด


ความเคลื่อนไหวของนักเตะทีมชาติไทย ซึ่งเตรียมเข้ารายงานตัว วันที่ 23 ต.ค. นี้ เพื่อเข้าสู่โปรแกรมสู้ศึก "เอเชียน คัพ 2011" รอบคัดเลือก กลุ่ม อี ที่จะพบกับ สิงคโปร์ วันที่ 14 และ 18 พ.ย. นี้ รวมถึงชุดซีเกมส์ จะเข้ารายงานตัวด้วยที่ รร.ทาวน์ อิน ทาวน์

สำหรับทีมชุดใหญ่จะรายงานตัวเวลา 13.00 น. จากนั้นแข้งซีเกมส์ จะรายงานตัว 13.30 น. เมื่อเช็กอินเรียบร้อยแล้ว จะออกเดินทางไปร่วมถวายพระพรแด่องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ รพ.ศิริราช พร้อมกัน เสร็จพิธีจะเข้าไปชมเกมการแข่งขันมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2009 นัดชิงชนะเลิศ และจะทำการซ้อมมื้อแรกวันที่ 24 ต.ค. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เวลา 16.00 น. รุ่งขึ้นวันที่ 25 ต.ค. นี้ จะเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต เวลา 13.00 น. ด้วยสายการบินไทย ทีจี 211

โดยฟุตบอล 4 เส้า "ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป 2009" ถือเป็นรายการแรกที่ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือคนใหม่ จะได้คุมทีม ตามโปรแกรมทีมชาติไทยจะเล่นในนาม ไทยแลนด์ 11 วันที่ 27 ต.ค. นี้ พบกับ สโมสรยานาดาร์บอน จาก พม่า ส่วนอีกคู่ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ ฮองอันห์ ยาลาย จาก เวียดนาม ทีมชนะจะเข้าชิงชนะเลิศ และทีมแพ้จะชิงอันดับ 3 ในวันที่ 29 ต.ค. นี้ นอกจากนี้ วันที่ 28 ต.ค. นี้ ทีมชุดใหญ่ จะมีเกมอุ่นแข้งกับชุดซีเกมส์ให้ชมกันด้วย ที่สนามสุระกุล บัตรเข้าชมราคา 100 และ 300 บาท แต่ถ้าซื้อตลอดทัวร์นาเมนต์จะลดครึ่งราคา

กุนซือทีมชาติไทย ไบรอัน ร็อบสัน กล่าวถึง การที่จะได้พบกับนักเตะเป็นครั้งแรกว่า ตื่นเต้นเป็นธรรมดา เพราะถือเป็นการรู้จักอย่างเป็นทางการครั้งแรก และจะได้ร่วมงานกัน ตนยกย่องความสามารถของนักเตะไทยมาตลอด เมื่อได้ศึกษาจาก ดีวีดี ทุกคนมีเทคนิค และการเล่นที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราจะได้ร่วมงานที่ยิ่งใหญ่ในการพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ

"ผมซ้อมเรื่องการออกชื่อของทุกคนให้ถูกต้อง อย่างที่ สตีฟ แนะนำ ให้จำชื่อสั้นๆ จะได้ออกเสียงได้ ส่วนภาษาไทย ผมกำลังเรียนรู้ มันค่อนข้างยาก แต่ยังไงก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะมันจำเป็นเมื่อต้องทำงานร่วมกัน" ร็อบสัน กล่าว

สำหรับศึก 4 เส้าที่ภูเก็ต ที่นับเป็นการคุมทีมครั้งแรกด้วยนั้น กุนซือชาวอังกฤษกล่าวว่า เราเจอกับทีมระดับสโมสร แต่เป็นแชมป์ของแต่ละประเทศไม่อาจประมาทได้ อีกอย่างทีมชาติไทยเพิ่งรวมทีมกัน อาจจะยังไม่พร้อมนัก แต่ตนเชื่อในฝีเท้า และความเป็นอาชีพของทุกคน ว่าจะทำหน้าที่ได้ดี

ส่วนระบบ แท็กติก ตนคงต้องรอเจอกับทุกคนก่อน มันสามารถที่จะเรียนรู้และปรับตัวได้ง่ายถ้าเปิดใจรับ ที่ผ่านมาตนได้เห็นการเล่นของทีมไทยแล้ว ถือว่ายอดเยี่ยม และเล่นได้แข็งแกร่ง ศักยภาพของทุกคนมีอยู่ในตัวเอง ขึ้นกับว่าจะนำมาใช้ได้ดีขนาดไหนยามลงสนาม ซึ่งทั้ง 2 นัด ตนจะผลัดเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้ครบทุกคน ถือเป็นการทดสอบทีมไปในตัว และแน่นอนเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ให้ได้ด้วย

สำหรับเกมนัดแรกที่จะพาทีมไปสู้ศึกคือการเจอสิงคโปร์ นั้น ร็อบสัน ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ศึกษารายละเอียดและเกมมาอย่างดีแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือก็จะเน้นไปที่แท็กติกโดยเฉพาะ ซึ่ง 4 เส้าที่ภูเก็ตน่าจะเป็นการทดสอบอะไรได้หลายๆ อย่าง

ด้านความคืบหน้ากรณีดึง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มานั่งเป็นผู้ช่วยในทีมชาติไทย ที่ยังสับสนอยู่ว่ามีการติดสัญญากับที่ไหนไว้หรือไม่ เรื่องนี้อดีตกุนซือ ชลบุรี เอฟซี ออกมาเผยว่า ช่วงเช้าได้พูดคุยกับทางท่าน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้วท่านก็สอบถามว่า เราเซ็นสัญญาไว้ที่ไหนหรือไม่ ยังไงไม่ต้องเกรงใจ สามารถที่จะบอกได้ ตนเองตอบตามความเป็นจริงว่า ณ เวลานี้ไม่ได้เซ็นสัญญาที่ไหน ตัวเองเพิ่งตกงาน และยังว่างอยู่

ข่าวที่ออกมาทางหน้าหนังสือพิมพ์ ยังไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น เมื่อแจ้งท่านนายกฯ อย่างนี้ ท่านก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นขอให้มาช่วยทีมชาติไทยสู้ศึก เอเชียน คัพ และ ซีเกมส์ ก่อน เมื่อจบภารกิจแล้ว หลังจากนั้นถ้าเราเกิดตกลงไปทำทีมไหนก็ไม่ว่ากัน ท่านให้ตัดสินใจได้เต็มที่

ส่วนกรณีที่ว่าโอกาสจะกลับไป เวียดนาม เพื่อคุมทีมฮองอันห์ ยาลาย อีกครั้ง "ซิโก้" เผยว่า การเจรจายังเพียงแค่เริ่มต้น ไม่ได้พูดรายละเอียดกันมากนัก ถือว่ายัง 50-50 อยู่ ยังไงรอ ซีเกมส์ จบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

ด้านเยาวชนอายุ 19 ปี ทีมชาติไทย ที่จะมีศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รออยู่ระหว่าง 1-11 พ.ย. นี้ เพื่อคัด 2 ทีมเป็นตัวแทนกลุ่มเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ทางทีมได้นำนักเตะจำนวน 25 คน ชุดสุดท้ายเดินทางไปเก็บตัวกันที่ บางกอกกล๊าส จ.ระยอง โดย "เสี่ยเอ๋" วิสิษ กอวรกุล ผจก.ทีมเผยว่า ช่วงท้ายนี้เราจะเน้นเรื่องแท็กติก และเกมการเล่นเป็นหลัก ยังเชื่อว่าทีมชุดนี้ดีที่สุดแล้ว ที่เลือกมา แต่อาจจะมีจุดบกพร่องบ้าง น่าจะแก้ไขได้ทัน

"เราคงต้องวัดกับทาง เวียดนาม และ เกาหลีใต้ ในช่วง 2 นัดสุดท้าย ที่ถือว่าสำคัญมาก จึงอยากเชิญชวนแฟนบอลไปชมและให้กำลังใจกันมากๆ ด้วยเพราะชุดนี้นอกจากหวังเข้ารอบเอเชียแล้ว เรายังหวังที่ไปสู่การชิงแชมป์โลกด้วย โดยเกมกับ เวียดนาม และ เกาหลีใต้ ได้ประสานกับทางช่อง 11 ในการถ่ายทอดสดให้ชมกันด้วย" ผจก.ทีมเยาวชนไทยกล่าว

ทั้งนี้ในวันที่ 24 ต.ค. ทีมเยาวชนไทย จะเดินทางไปอุ่นเครื่องกับรวมไทยลีกที่ จ.สระแก้ว ก่อนกลับ กรุงเทพฯ ในวันที่ 30 พ.ย. และจะเดินทางไปร่วมถวายพระพรในหลวงที่ รพ.ศิริราช ซึ่งทีมเยาวชนไทยจะเปิดสนามนัดแรก 1 พ.ย.พบกับ มาเก๊า, 3 พ.ย. เจอ ลาว, 6 พ.ย. พบ บังกลาเทศ, 8 พ.ย. พบ กับ เวียดนาม และ 11 พ.ย. เจอกับ เกาหลีใต้ เป็นนัดส่งท้าย



ข้อมูล http://www.siamsport.com/

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ร็อบโบ" เผยไทยลีกบรรยากาศสุดยอด ชม 3 นักเตะไทยแจ่ม


ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ชาวอังกฤษ ยอมรับศึกฟุตบอลไทยลีก มีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมและมีผู้เล่นที่มีฝีเท้าดีๆอยู่มากมาย โดยออกมาชื่นชมในฝีเท้าของ 3ผู้เล่นทีมเมืองทองฯเป็นพิเศษ ได้แก่ "โอ๊ต" ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดาและ "แมท"ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แบ็กซ้ายจอมบุกของทีม

หลังจากที่ "กัปตันมาร์เวล" ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทย ชาวอังกฤษได้เปิดตัวแถลงข่าวอย่างเป็นทางเข้ารับงานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด ยอดกุนซือวัย 52 ปี ได้มีโอกาสเข้าไปชมเกมศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกที่สนาม ธันเดอร์โดม คู่ระหว่างเมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบกับ บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งผลปรากฏว่า กิเลนผยองเป็นฝ่ายเอาชนะไป 2-0 โดยนั้งชมเกมเคียงข้างสตีฟ ดาร์บี และศรีภรรยา

โดย อดีตกัปตันผีแดง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว MGR Sport ถึงเกมไทยลีก หลังเข้ามาชมแบบติดขอบสนามเป็นครั้งแรกว่า "บรรยากาศที่นี่สุดยอดมาก ผู้ชมเข้ามากันอย่างหนาตาและส่งเสียงเชียร์กันไม่หยุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยชื่นชอบฟุตบอลกันมากแค่ไหน และมีผู้เล่นที่มีความสามารถมากมายทั้ง 2 ทีม แต่สนามวันนี้ดูจะแฉะไปหน่อยซึ่งไม่เหมาะกับการเล่นฟุตบอลเท่าไหร่นัก และผู้เล่นทั้ง2ทีมใช้โอกาสกันเปลืองมากไปทั้งๆที่มีโอกาสงามๆหลายครั้ง"

ข้อมูล http://www.manager.co.th/

"วันนี้ สตีฟ (ดาร์บี)ช่วยแนะนำเรื่องนักเตะไทยให้ผมได้มากทีเดียว เขาจะเป็นผู้บอกผมได้เสมอว่าผู้เล่นในลักษณะที่ผมต้องการชื่อว่าอะไร สไตล์การเล่นแบบไหน ซึ่งวันนี้ผมชอบฟอร์มการเล่นของ ผู้เล่นหมายเลข 6(ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์), 10(ธีรศิลป์ แดงดา)และ11(ปิยะชาติ ถามะพันธ์) ของทีมเหย้าเป็นพิเศษ"

ในส่วนของ "ร็อบโบ" จะประเดิมคุมทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเชี่ยนคัพ ลงอุ่นแข้งในศึกฟุตบอล 4 เส้า ที่ภูเก็ต ที่ประกอบไปด้วย สโมสร ยานาดาร์บอน,เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, ฮองอันยาลาย แข่งขันระหว่างวันที่ 27-31 ต.ค.นี้ ที่สนามกีฬาสุระกุล จ.ภูเก็ต ก่อนจะมีโปรแกรมสำคัญพาทีมชาติไทยลงเตะกับทีมชาติสิงคโปร์ รอบคัดเลือกที่สนามบิซาน สเตเดียมในวันที่14 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ก่อนจะมาเล่นเลกสองที่ราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 18 พ.ย. เพื่อคว้าสิทธิ์เข้าไปเล่นในศึกเอเชียนคัพรอบสุดท้ายต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

“ร็อบโบ” เซ็น 4 ปีคุมไทย “บังยี” ตั้งเป้าสูงปรี๊ด


ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ จะจรดปากกาเซ็นสัญญาคุมทัพทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ ในช่วงเย็นวันพุธที่ 23 กันยายนนี้ จากนั้นขอเหินฟ้ากลับไปจัดการธุระยังประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว รวมถึงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รับหน้าที่เป็นทูตอยู่

หลังจาก ร็อบสัน อดีตกุนซือ มิดเดิลสโบรช์ และ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เหินฟ้าถึงประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการรับงานคุมทีมชาติต่อจาก ปีเตอร์ รีด ทำให้กองทัพนักข่าวเดินทางไปที่โรงแรมเรดิสัน เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 23 ก.ย.

แต่ทว่าไม่เห็นเงาของ ร็อบสัน ปรากฏเพียง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ออกมายืนยันว่า ร็อบสัน จะเซ็นสัญญาพร้อมเปิดใจในเวลา 6 โมงเย็นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรสทัวร์รองแอนด์บาร์ โรงแรมเพรสซิเด้นท์ พาเลซ สุขุมวิท 11

พร้อมกันนี้ วรวีร์ เปิดเผยอีกว่า ร็อบสัน อดีตกัปตันทีม แมนฯยูไนเต็ด ยุคทศวรรษ 80 จะเซ็นสัญญา 4 ปีคุมทีมชาติไทย แต่ไม่เปิดเผยเรื่องค่าเหนื่อย โดยคาดกันว่าจะไม่ถึง 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 56 ล้านบาท) ต่อปี ตามที่เป็นข่าว อาจจะอยู่ที่ 600,000 ปอนด์ (ประมาณ 33.6 ล้านบาท) ต่อปี

โดย “บิ๊กยี” กล่าวว่า “เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ผมได้ไปพบกับ ร็อบสัน มาแล้ว พร้อมได้พูดคุยในรายละเอียดสัญญากัน โดยจะมีระยะสัญญา 4 ปี ขณะที่เรื่องค่าเหนื่อยคงเปิดเผยไม่ได้ ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้นวางไว้ว่า เป็นวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่งจากนี้จะให้เขากลับอังกฤษ เพื่อจัดการธุระส่วนตัว พร้อมกับแจ้งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทราบถึงเรื่องการตัดสินใจมาร่วมงานกับสมาคมฟุตบอลไทย”

“ส่วนสัญญาดังกล่าวจะมีเงื่อนไขพิเศษหลายประการที่บอกได้ คือ เรื่องที่ระบุว่าจะมีการประเมินผลงานกันทุก 1 ปี หากทั้ง 2 ฝ่ายพอใจก็จะร่วมงานกันต่อ แต่หากไม่เป็นอย่างที่ต้องการก็คงต้องจากกันด้วยดี เรามีประสบการณ์มาแล้ว กับการที่คนไม่มีใจเราคงไปรั้งเขาต่อไปไม่ได้” นายกลูกหนัง กล่าว

ขณะเดียวกับ ประมุขลูกหนังไทยยังเปิดเผยถึงเป้าหมายที่วางไว้ให้ “ร็อบโบ” ด้วยว่า “อันดับแรกตอนนี้ที่เขาต้องทำให้ได้ คือ พาทีมชาติไทยไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 ส่วนเป้าหมายถัดไปต้องนำทีมไปลุยโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นเป้าหมายสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่งเราก็ต้องการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกเช่นกัน”

ข้อมูล www.manager.co.th

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ฟันฉลามสังเวยแฟนบ้า แบนสนามสิรินธรนัดท้าย


คมชัดลึก :ลงดาบฟันชลบุรี หลังเหตุอัปยศแฟนบอลอันธพาลไล่ทำร้ายสื่อมวลชน ห้ามใช้สนามสิรินธรเป็นสนามเหย้า พร้อมสั่งย้ายมาแข่งที่สนามศุภชลาศัยในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ขณะที่ "เดอะเซนต์" อรรณพ สิงห์โตทอง เตรียมทำเรื่องอุทธรณ์ขอจัดที่สนาม สพล.ชลบุรี แบบปิดห้ามแฟนบอลเข้าชมหวังเป็นบรรทัดฐานของลีกในอนาค


เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพประจำสัปดาห์ โดยมี “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย “มร.โอเค” นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง


ซึ่งก่อนการประชุม นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการบริหาร นำหนังสือ และซีดีบันทึกเหตุการณ์ที่แฟนบอลชลบุรี ได้ทำร้ายช่างภาพและเจ้าหน้าที่ของสยามกีฬาทีวี รวมทั้งทำลายรถโอบี มามอบเป็นหลักฐาน เพื่อพิจารณาตามบทบาทในความรับผิดชอบ และหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน


ข้อมูล http://www.komchadluek.net/

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พลิกโผ เทิดศักดิ์-อิศวะ คัมแบ็กติดทีมลุยเอเชี่ยนคัพ


สมาคมฟุบตอลแห่งประเทศไทยได้ทำการประกาศรายชื่อขุนพลทีมชาติไทยออกมา 2 ชุด ทั้งชุดใหญ่สำหรับลุยศึก เอเชี่ยนคัพ และชุดเล็กสำหรับลุยซีเกมส์ในช่วงปลายปีนี้ โดยสิ่งที่ทำให้สื่อมวลชนต้องแปลกใจกันก็คือ 2 มิดฟิลด์ตัวเก๋าอย่าง เทิดศักดิ์ ใจมั่น และ อิศวะ สิงห์ทอง ถูกเรียกกลับมาติดทีมชุดลุยศึก เอเชียนคัพอีกครั้ง หลังจากหลุดจากทีมชาติไปกว่า 2 ปี

หลังจากที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทสไทยได้บรรลุสัญญาว่าจ้าง ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ และทีม “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาเป็นกุนซือใหญ่คนใหม่ของทีมชาติไทยชุดลุยแข้งศึกฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2011 รอบคัดเลือก ที่ไทยมีโปรแกรมดวลแข้งกับ สิงคโปร์ ทั้งแมตช์ เหย้า และ เยือน ในเดือน พ.ย.นี้

ล่าสุดทางเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ นายองอาจ ก่อสินค้า ได้ทำการประกาศรายชื่อขุนพลนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ จำนวน 22 คน ที่จะเตรียมไว้ลุยศึกเอเชี่ยนคัพออกมาแล้ว ปรากฎว่า มีชื่อของ 2 ยอดมิดฟิลด์จอมเก๋าที่หลุดทีมชาติไปนาน ทั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่เล่นให้ทีมอาร์มฟอร์ซ ในเอสลีกสิงคโปร์ และ อิศวะ สิงห์ทอง ที่ค้าแข้งอยู่ในลีกเวียดนาม ถูกเรียกเข้ามาติดทีมชุดนี้ด้วย รวมถึง ปีเตอร์ แลง นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิส จากสโมสรชาร์ฟเฮาเซนส์ ก็ถูกเรียกมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง แต่ที่หลายฝ่ายพากันแปลกใจ ก็คือทีมชาติชุดนี้ยังคงไม่มีชื่อของ อำนาจ แก้วเขียว ปราการหลังกัปตันทีมจอมแกร่งของทีม “กระต่ายแก้ว”บางกอกกล๊าส เอฟซี เหมือนเคย ทั้งที่ อำนาจ โชว์ฟอร์มให้ต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม คงเส้นคงวา และได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเต็งหามของนักเตะกองหลังยอดเยี่ยมศึกไทย พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

ส่วนผู้เล่นคนอื่นที่เหลือ มีรายชื่อ ดังนี้ ผู้รักษาประตู สินทวีชัย (โกสินทร์) หทัยรัตนกุล , กิตติศักดิ์ ระวังป่า , กวิน ธรรมสัจจานันท์ กองหลัง สุรีย์ สุขะ , ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ , ณัฐพงษ์​สมณะ , ภานุพงศ์ วงษา , เกียรติประวุฒิ สายแวว กองกลาง สุเชาว์ นุชนุ่ม , ดัสกร ทองเหลา ,สุรัตน์ สุขะ,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,สุธี สุขสมกิจ,ณรงค์ชัย วชิรบาล,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา , ธีรเทพ วิโนทัย , พิพัฒน์ ต้นกันยา และ อานนท์ สังสระน้อย

ขณะเดียวกันในส่วนของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่มี “บังมาด”สามารถ มะลูลีม เป็นผู้จัดการทีม และ สตีฟ ดาร์บี้ เป็นเฮดโค้ชนั้น ก็ได้มีการประกาศรายชื่อนักเตะออกมาแล้วเช่นกัน ทั้งหมด 30 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มี 3 คน ที่มีชื่อติดทั้ง 2 ทีม คือ ซีเกมส์และชุดใหญ่พร้อมกัน คือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งของทีม เมืองทองฯยูไนเต็ด เกียรติประวุฒิ สายแวว กองหลังคนดังของ ชลบุรี เอฟซี และ “เจ้ามุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกตัวกลั่นของทีมกิเลนผยอง

โดยแข้งซีเกมส์ที่เหลืออีก 27 คน ได้แก่ ผู้รักษาประตู ทศพร ศรีเริง,อุกฤษ์ วงศ์มีนา กองหลัง สุทธินันท์ พุกหอม,ปิยะชาติ ถามะพันธ์,สุจริต จันทกล,ธีราทร บุญมาทัน,พลวัฒน์ วังฆะอาด,เจษฎากรณ์ เหมแดง,อาทิตย์ ดวงสว่าง กองกลาง อดุลย์ หละโสะ , อรรถพงษ์ หนุูพรหม,อาทิตย์ สุนทรพิธ,ภานุวัฒน์ จินตะ,เกรียงไกร พิมพ์รัตน์,อภิภู สุนทรพนาเวช,พิชิต ใจบุญ,สุมัญญา ปุริสาย,คัพฟ้า บุญมาตุ่น,อนาวิน จูจีน,จีระวัฒน์ มัครมย์,สุรเชาฐ์ งามทิพย์,อาลีฟ เปาะจิ กองหน้า ศุภพร พรหมนิจ , กีรติ เขียวสมบัติ , สมปอ สอเหลบ,อิสระพงษ์ ลีละคร และ ชรินทร์ บุตรฮาด

ซึ่งนักเตะทีมชาติไทยทั้ง 2 ชุด ที่มีรายชื่อดังกล่าวข้างต้น จะต้องมารายงานตัว พร้อมหนังสือเดินทาง ในวันจันทร์ที่ 5 ต.ค.นี้ เวลา 10.30 น.ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน พร้อมทั้งร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว “แมคโดนัลด์” ผู้สนับสนุนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยรายใหม่ ในเวลา 13.30 น. วันเดียวกันด้วย

ข้อมูล www.thairath.co.th

"ซิโก้" ชี้ฉลามสดไม่เท่ากิเลนแต่ขอสู้ถวายหัว


เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชชลบุรี เอฟซี ยอมรับก่อนเกมช้างชนช้างกับ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้ว่าคงสู้เรื่องความสดไม่ได้ แต่ยืนยันว่าขอสู้แบบถวายหัวแน่นอน เพื่อลุ้นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจนถึงหยดสุดท้าย

ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เดินทางมาถึงไคลแมกซ์สำคัญสำหรับการชี้ชะตาทีมแชมป์ในนัดที่ 27 วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมนี้ ซึ่งจ่าฝูง “กิเลนผยอง” ที่มีอยู่ 55 คะแนนเตรียมเฝ้ารังธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ต้อนรับทีมอันดับ 2 “ฉลามชล” ที่ตามหายใจรดต้นคออยู่เพียงแค่แต้มเดียว

โดย เดอะ ชาร์ค ซึ่งเพิ่งอกหักมาในรายการเอเอฟซี คัพ ด้วยการบุกไปพ่าย บินห์ เยือง ทีมจากเวียดนามในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง 0-2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นเล็กน้อยโดย สุรีย์ สุขะ แบ็กขวาจอมบุกยังติดโทษแบนอีกเกม ส่วน เอกพันธ์ อินทเสน ตัวริมเส้นขาลุยยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตจากที่บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้ายจนพักฟื้นมา 3 สัปดาห์ แม้ว่าจะกลับมาลงซ้อมได้บ้างแล้วก็ตาม

ด้าน เกียรติศักดิ์ กุนซือทีมดังจากเมืองน้ำเค็มกล่าวถึงสภาพความพร้อมว่า “เกมนี้มีความหมายกับเราอย่างยิ่งจึงต้องจัดตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดและสมบูรณ์พร้อมที่สุดลงไป แต่เรื่องความสดคงสู้พวกเขาไม่ได้ เพราะเราก็เพิ่งเดินทางกลับมา อย่างไรก็ตาม แม้ เมืองทองฯ จะกำลังดีวันดีคืนแต่เรายืนยันว่าจะสู้ให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน”

สำหรับในรายของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่ฉีดยาชาระงับอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายลงเฝ้าเสาในแมตช์วันพุธที่ผ่านมาก็ยังไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทว่า “ซิโก้” อาจต้องเข็นลงสนามโดยพูดถึง “หนุ่มตี๋” ว่า “ถึงแม้จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่ามีใจอยากจะเล่น ซึ่งเกมกับ บินห์ เยือง ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะการป้องกันลูกยิงจ่อๆ ได้หลายหน ผมคิดว่าเขาควรได้รับโอกาสอีกครั้ง”

ในส่วนของ โคเน โมฮาเหม็ด หัวหอกชาวไอวอรีโคสต์ซึ่งบาดเจ็บข้อเท้าต้องรอประเมินสภาพร่างกายเช่นกัน แต่หากลงล่าตาข่ายไม่ได้ก็ยังมี ฌองมาร์ค เบนี กับ โจอิลสัน โรดริเกซ ดา ซิลวา เป็นตัวทดแทนอยู่ ขณะที่รายอื่นๆ อาทิ เกียรติประวุฒิ สายแวว, อดุลย์ หละโสะ, อาทิตย์ สุนทรพิธ, ไมเคิล เบิร์น และ พิภพ อ่อนโม้ ไม่มีปัญหาพร้อมลงฟาดแข้งทั้งหมด

ข้อมูล www.manager.co.th

“โค้ชแต๊ก” รับ บิ๊กแมตช์กับชลบุรี ใครพลาดชวดแชมป์


“โค้ชแต๊ก” อรรถพล บุษปาคม เฮดโค้ชของทีม 'กิเลนผยอง' เมืองทองฯ ออกมาเผยเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์กับ ชลบุรี หากใครพลาดมีโอกาสชวดแชมป์สูง ด้านการไฟฟ้าฯรับเวลานี้เป็นรองสิงห์เจ้าท่าเก็บ 1 แต้มถือว่าพอใจแล้ว ขณะที่ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สตาฟฟ์โค้ชของทีม โอสถสภา ทีมอันดับ 5 ของตารางไทยพรีเมียร์ลีก สุดมั่นเล่นในบ้านไม่มีแพ้แน่ พร้อมชูกองเชียร์ชาวสระบุรีสร้างขวัญและกำลังใจได้เยอะ

ในวันพฤหัสที่ 1 ตุลาคม 2552 มีงาน "MEET THE PRESS" แถลงความพร้อมก่อนแข่ง ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 27 ณ ที่ทำการสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีการจัดแถลงข่าวทุกสัปดาห์ เพื่อยกระดับลีกไทยสู่มาตรฐานสากล โดยเชิญผู้เล่น และโค้ชจาก 3 คู่ใหญ่ของแต่ละสัปดาห์มาพูดคุยเกี่ยวกับความพร้อมด้านต่างๆของทีม

สำหรับวีคนี้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก มีคิวลงสนาม ครบทั้ง 16 ทีม โดยสัปดาห์นี้ แบ่งเป็น 2 วัน เสาร์-อาทิตย์เช่นเคย โดยเลือกนำ 3 คู่เอก มาแถลงความพร้อมดังต่อไปนี้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี , การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. พบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ โอสถสภา เอ็ม 150 พบ ราชนาวี ระยอง โดยเริ่มที่โค้ช "แต๊ก" อรรถพล บุษปาคม เฮดโค้ชของทีม 'กิเลนผยอง' เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยลีก ณ เวลานี้ ออกมาเผยในการเตรียมความพร้อมล่าสุดของทีม ว่า "นัดพบกับทีมชลบุรี ถือว่าเป็นนัดสำคัญจริงๆ หากใครแพ้มีโอกาสชวดแชมป์สูง ชลบุรีเป็นทีมที่เล่นด้วยยาก เพราะเต็มไปด้วยผู้เล่นมีประสบการณ์สูง และมีเกมรุกที่ดี คงต้องสั่งลูกทีมเล่นอย่างรัดกุมสุดๆ เชื่อว่าเป็นเกมที่บรรดากองเชียร์ทั้ง 2 ทีมจะได้ลุ้นกันสนุกอย่างแน่นอน"

สำหรับคู่ การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. พบกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ทองสุข สัมปหังสิต โค้ชใหญ่ของทีมการไฟฟ้าฯ ทีมอันดับเก้าของตาราง ออกมาพูดถึงเกม ไปเยือน สิงห์เจ้าท่า ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ว่า "ยอมรับว่าลูกทีมเป็นรอง ทีมท่าเรือ แต่เกมนี้ได้ตัวหลักอย่าง ณรงค์ชัย วชิรบาล กลับมา จะทำให้แดนกลางมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากได้ 1 แต้มกลับบ้านก็ถือว่าพอใจแล้ว "

ส่วนทีมเจ้าบ้าน เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ผู้จัดการทีมสิงห์เจ้าท่า เผยถึงเกมนี้ว่า "ลูกทีมเต็มที่ทุกนัด โดยเฉพาะยามเล่นในบ้าน แต่ต้องยอมรับว่าเป้าหมายของทีมจริงๆอยู่ที่ถ้วย เอฟ.เอคัพ โดยในลีกขอติด 1ใน 5 ก็ถือว่าน่าพอใจสำหรับฤดูกาลนี้แล้ว"

ส่วนคู่เอกอีกหนึ่งคู่ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ทีมอันดับห้าของตาราง เปิดบ้านพบกับ ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตารางที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น โดย นาวาโท บุญธรรม พันธุ์นุช ผู้ช่วยโค้ชทีมดังจากถิ่นระยอง เผยว่า “ยอมรับว่าถึงเวลานี้ทีมยังไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่อยากให้ลูกทีมเล่นกันอย่างเต็มที่ ขอให้มีแต้มไว้ก่อน 1 แต้มเวลานี้ถือว่าสำคัญมาก”

ด้าน ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สตาฟฟ์โค้ชของทีม โอสถสภา ที่รั้งอันดับ 5 บนตารางไทยพรีเมียร์ลีกเวลานี้ออกมาเผยว่า "ยอมรับว่าลูกทีมกำลังอยู่ในช่วงล้า แต่ได้กำลังใจดีมาทดแทน จากเกมที่เอาชนะบางกอกกล๊าส มาได้ในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้ได้เล่นในบ้าน ผมมั่นใจว่าลูกทีมจะสามารถคว้า 3 แต้มได้ เพราะได้เสียงเชียร์ชาวสระบุรีเป็นกำลังใจอย่างล้นหลาม"

โปรแกรมการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 27 มีดังนี้

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2552
16.00 สมุทรสงคราม เอฟซี - พัทยา ยูไนเต็ด สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสงคราม

16.00 จุฬา ยูไนเต็ด - ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร สนาม จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

17.00 ทีโอที เอฟซี - นครปฐม เอฟซี สนาม ธันเดอร์โดมฯ เมืองทอง

18.00 ศรีราชา เอฟซี - บีอีซี-เทโร ศาสน สนาม สิรินธร

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552
16.00 โอสถสภา เอ็ม 150 - ราชนาวี ระยอง สระบุรี

17.00 บางกอกกล๊าส เอฟซี - Bangkok United สนาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง6

17.00 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - ชลบุรี เอฟซี สนาม ธันเดอร์โดมฯ เมืองทอง

17.00 การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนาม การท่าเรือ คลองเตย

ข้อมูล www.manager.co.th

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

บอลไทย นี่ซิเรา

น้องๆ ดูไว้

ฟุตซอลไทยอุ่นชนะ สโมสรสเปน 7-5


ความเคลื่อนไหวของนักเตะฟุตซอลทีมชาติไทยที่อยู่ในช่วงเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศสเปนและโปรตุเกสเพื่อเตรียมทีมลุยศึก "เอเชี่ยน อินดอร์เกมส์" ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคมถึง 8 พฤศจิกายนนี้


ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศสเปน ทีมชาติไทยได้ลงอุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการกับทีมสโมสรนาโรน ทีมระดับดิวิชั่น 3 ของสเปน ผลปรากฏว่านักเตะไทยเอาชนะไป 7-5 ได้ประตูจาก เสริมพันธุ์ คุ้มถิ่นแก้ว นาที 10 พนมกร สายสอน นาที่ 12, 40 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง นาที 18 กฤษดา วงษ์แก้ว นาที 31 ภานุวัฒน์ จันทา นาที 35 ธนากร สันทนาประสิทธิ์ นาที 38 โดยทีมชาติไทยจะมีโปรแกรมอุ่นนัดสุดท้ายที่เมืองมาดริดกับทีมชาติสเปนอีก 1 นัดในวันที่ 29 กันยายน


ข้อมูล http://www.komchadluek.net/

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

ระอุไล่ 4 !! ท่าเรือซัดโทษเฉือนกระต่าย, จุฬามีชัย


การท่าเรือไทย เอฟซี เฉือนชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี อย่างโชกโชน 1-0 จากลูกจุดโทษในนาทีสุดท้ายของ จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ โดยรูปเกมดุเดือดจนมีผู้เล่นถูกตะเพิดถึง 4 คน ส่วน จุฬา ยูไนเต็ด ต่อความหวังในการหนีตกชั้นด้วยการบุกชนะ ศรีราชา เอฟซี 1-0


ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552 การท่าเรือไทย เอฟซี 1–0 บางกอกกล๊าส เอฟซี


คู่เอกประจำนัดที่ 26 ที่สนามแพท สเตเดียม การท่าเรือไทย เอฟซี อันดับ 6 ของตารางเปิดบ้านรับการมาเยือนของ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 3 นัดนี้เจ้าถิ่นไร้ 2 ตัวเก่งอย่าง พิพัฒน์ ต้นกันยา กับ อาลีฟ เปาะจิ ที่ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองจึงทิ้ง เอ็ดวัลโด เปเรรา กองหน้าชาวบราซิลไว้เป็นตัวเป้า ส่วนทีมเยือนให้ เดชา เพชรตะกั่ว ยืนแบ็กซ้ายแทน ศุภชัย คมศิลป์ ที่ติดโทษแบน พร้อมทั้งวาง อาจายี ซามูเอล กับ ชาตรี ฉิมทะเล ล่าตาข่าย


เริ่มเกมมาได้ไม่ถึง 2 นาที “กระต่ายแก้ว” เป็นฝ่ายทักทายจ้าบ้านก่อน เมื่อ ชาตรี แตะคืนสั้นๆ ให้ โคเน คาสซิม ตะบันไกลทว่าลูกเหินข้ามคาน ถัดมา 2 นาที รุ่งโรจน์ สว่างศรี ลองส่องฟรีคิกระยะ 33 หลาส่งลูกลอดใต้กำแพงออกทางเสาแรก จากนั้น เดชา รับใบเหลืองแรกของเกมหลังตัดฟาวล์ เอกชัย สำเร จนตัวลอย ก่อนที่ “สิงห์เจ้าท่า” จะได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 14 แต่ลูกยิงหน้าเขตโทษของ ธีระวุฒิ สันพันธ์ ไม่ตรงกรอบ


3 นาทีต่อมา อาจายี ได้คายพิษสงบ้างโดยลากเข้าไปส่องในเขตโทษด้านซ้าย ลูกเหินข้ามคานแบบมีเสียว จากนั้นนาทีที่ 26 เกียรติเจริญ เรืองปาน สบโอกาสชิปบอลแต่ไม่ได้ทั้งน้ำหนักและทิศทางก่อนเข้ามือ กฤษณะ กลั่นกลิ่น เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมง เดชา ลองปั่นฟรีคิกระยะหวังผลแต่ก็เข้าซอง มุนเซ อุลริช จากนั้น สมเจตน์ เกศารัตน์ โดนใบเหลืองบ้างจากการยกเท้าสูงใส่ พลวัฒน์ วังฆะฮาด


ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้านมีลุ้นจาก จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ ที่ได้ยิงฟรีคิกระยะถนัด 25 หลาโค้งผ่านเสาออกหลัง ก่อนที่ อนาวิน จูจีน จะเลี้ยงตัดเข้ามาส่องในเขตโทษลุ้นให้อาคันตุกะ ทว่าถูก มุนเซ อุลริช ยืนดักรับไว้ได้ที่เสาแรก จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0


กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ 7 นาที สะสม พบประเสริฐ กุนซือการท่าเรือไทยทิ้งไพ่ใบแรกด้วยการส่ง ปิติพงษ์ กุลดิลก ลงไปแทน ธีระวุฒิ สันพันธ์ เพื่อผนึกกำลังกับ เอ็ดวัลโด ในแดนหน้า จากนั้น สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ก็แก้เกมทางฝั่งบางกอกกล๊าสบ้างโดยให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา ลงมาเสริมแนวรุกแทน ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ ซึ่ง นันทวัฒน์ เรียกฟรีคิกได้ทันทีในนาทีที่ 55 แต่ อนาวิน รับอาสายิงข้ามคาน


เกมเริ่มเดือดขึ้นตามลำดับในช่วงครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เมื่อมีผู้เล่นโดนไล่ออกข้างละ 1 คน โดย สมเจตน์ ตัวตัดเกมเจ้าถิ่นรับใบเหลืองที่ 2 จากการยันใส่ อนนท์ บุญสุโข ตามด้วย นันทวัฒน์ ที่เล่นนอกเกมใส่ พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ กระทั่งนาทีที่ 66 ปิติพงษ์ ได้จังหวะกดเสียบมุมในเขตโทษแต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากโดนจับล้ำหน้าไปก่อน 2 นาทีให้หลัง อนนท์ ได้หวดหน้าเขตโทษ ทว่าลูกไต่หลังเท้าโด่งข้ามคานออกไป


บีจีมีโอกาสใกล้เคียงกับกาใส่สกอร์นำในนาทีที่ 72 เมื่อ อนาวิน แทงทะลุช่องให้ ชาตรี ซัดเรียดในเขตโทษผ่านมือ มุนเซ ไปแล้วแต่ลูกถากโคนเสาสองออกไปชนิดใจหายใจคว่ำ ตามด้วยเจ้าท่าซึ่งมีลุ้นจาก เกียรติเจริญ ที่ยิงไกลส่งบอลพุ่งวาบผ่านเสาแรก จากนั้นฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ผ่านมายังนาทีที่ 87 จีระวัฒน์ หลอกยิงฟรีคิกเกือบกลางสนามหวิดเสียบใต้คาน แต่ กฤษณะ ไม่ประมาทปัดข้ามคานออกไปได้


กระทั่งนาทีสุดท้าย สิงห์เจ้าท่าก็มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะชุลมุนหน้าประตู ซึ่ง เดชา ใช้มือปัดลูกโหม่งของ อรรถพล วงศ์สุนทร ตัวสำรองเจ้าถิ่นบนเส้น ทำให้ถูกไล่ออกจากสนาม ซึ่ง จีระวัฒน์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปทางมุมขวาบน ส่วน กฤษณะ พุ่งผิดทางเป็นสกอร์ 1-0 ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 กระต่ายแก้วมาเหลือผู้เล่นแค่ 8 คน เมื่อ อาจายี ใช้มือผลักหน้า อรรถพล หลังจากทั้งคู่เพิ่งปะทะกัน ผู้ตัดสิน เชาวลิต สนั่นไหว ชักใบแดงให้โดยไม่ลังเล ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะของ การท่าเรือไทย 1-0 เก็บพิ่มเป็น 43 คะแนน แต่ยังคงรั้งอันดับ 6 ตามเดิม ส่วน บางกอกกล๊าส ก็อยู่ที่ 3 ของตารางต่อไป มี 47 คะแนน


รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม การท่าเรือไทย เอฟซี – มุนเซ อุลริช (ผู้รักษาประตู), ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร, มูดูรู สวา มอยเซ, อิทธิพล นนท์ศิริ (กัปตันทีม), พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ, สมเจตน์ เกศารัตน์, จีระวัฒน์ มัคคะรมย์, เกียรติเจริญ เรืองปาน, เอกชัย สำเร, ธีระวุฒิ สันพันธ์, เอ็ดวัลโด เปเรรา


บางกอกกล๊าส เอฟซี – กฤษณะ กลั่นกลิ่น (ผู้รักษาประตู), พลวัฒน์ วังฆะฮาด, รุ่งโรจน์ สว่างศรี, อำนาจ แก้วเขียว (กัปตันทีม), เดชา เพชรตะกั่ว, อนาวิน จูจีน, อนนท์ บุญสุโข, โคเน คาสซิม, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, อาจายี ซามูเอล, ชาตรี ฉิมทะเล


ผลฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 26 วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน

การท่าเรือไทย เอฟซี ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0

เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี 3-1

ราชนาวี ระยอง แพ้ ทีโอที เอฟซี 0-3

แบงค็อก ยูไนเต็ด เสมอ บีอีซี เทโรศาสน 1-1

ศรีราชา เอฟซี แพ้ จุฬา ยูไนเต็ด 0-1

พัทยา ยูไนเต็ด เสมอ โอสถสภาส เอ็ม-150 1-1


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

“ร็อบสัน"คุมไทยดีเดย์22ก.ย.มาไทยเจรจาขั้นสุดท้าย


คมชัดลึก : นายกสมาคมลูกหนังไทย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ฟันธงได้ตัว “ร็อบโบ้” ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ มาเป็นกุนซือทีมชาติไทยแน่นอน เผย “กัปตันกระดูกเหล็ก” กำลังหาข้อมูลทีม “ช้างศึก” อยู่ที่บ้านเกิดและจะเดินทางมาเมืองไทยในวันที่ 22 กันยายนนี้เพื่อเจรจารายละเอียดครั้งสุดท้าย

ภายหลังจากที่นักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ต้องอยู่ในช่วงสูญญากาศไร้กุนซือนำทัพนับตั้งแต่ “มร.เครียด” ปีเตอร์ รีด ตัดสินใจฉีกสัญญากับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเพื่อกลับไปรับงานผู้ช่วยผู้จัดการทีม “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ค ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ล่าสุดขุนพลนักเตะทีมชาติไทยที่มีโปรแกรมลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือ “เอเชี่ยนคัพ 2011” รอบคัดเลือก นัดที่ 3 กับ สิงคโปร์ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน นี้กำลังจะได้โค้ชคนใหม่แล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ปธ.ฟีฟ่ายัน มี2ชาติ คู่แข่งไทยจัดฟุตซอลโลก2012


ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. จัดงานเลี้ยงต้อนรับ เซป แบล็ตเตอร์ มอบกุญแจเมืองเป็นเกียรติ พร้อมทั้งกล่าวถึงความพร้อมของ กทม. ที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดฟุตซอลโลกรอบสุดท้าย ด้าน ปธ.ฟีฟ่ารับ เมืองไทยมีความพร้อม แต่ต้องไปแย่งกับคู่แข่งอีก 2 ชาติเอาเอง


วันนี้(16 ก.ย.) ความเคลื่อนไหวของ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” ที่มาเยือนประเทศไทย โดย เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงเช้า แบล็ตเตอร์ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสนามหญ้าเทียมของศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก พร้อมกับ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทสไทย และนายกนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย


จากนั้นในช่วงเย็น ประธานฟีฟ่าได้ไปร่วมงานเลี้ยงรับรองของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ที่วังสวนผักกาด โดยผู้ว่าฯกทม.ได้มอบกุญแจเมืองเพื่อเป็นเกียรติให้กับแบล็ตเตอร์ พร้อมกับกล่าวต้อนรับบิิ๊กฟีฟ่าและยืนยันความพร้อมของกรุงเทพมหานคร ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ในปี 2012 ซึ่ง กทม.มีความพร้อมทุกด้านทั้งเรื่องของ โรงแรมที่พัก ระบบการขนส่ง คมนาคม ความปลอดภัย รวมไปถึงเรื่องของสนามแข่งขัน ซึ่งได้ขอคำแนะนำจากทางฟีฟ่าในเรื่องของการปรับปรุงสังเวียนแข้งที่มีอยู่ หลายแห่ง ให้ได้มาตรฐาน และเพียงพอตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติต้องการ


ประธานฟีฟ่า เผยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ 2 งานใหญ่ ในปี 2012 ทั้งประชุมฟีฟ่าคองเกรส และเจ้าภาพฟุตซอลโลก อยู่แล้ว เมืองไทยสวยงาม ผู้คนเป็นมิตร เชื่อว่าถ้ากรรมการบริหาร หรือสมาชิกฟีฟ่าคนไหนได้มาเยือนก็ต้องประทับใจ แต่ในการเลือกเจ้าภาพของแต่ละงานนั้นมีรายละเอียดในการพิจารณาที่แตกต่างกัน ไป โดยเฉพาะในศึกฟุตซอลโลกตอนนี้มีอีก 2 ชาติที่เสนอตัวเข้ามา คือ สาธารณรัฐเช็ก และ แอฟริกาใต้ ซึ่งมีความพร้อมด้วยกันทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับบอร์ดบริหารจัดตัดสินใจเลือกชาติไหนที่เหมาะสมที่สุด


ข้อมูล http://www.thairath.co.th/

เทโรฯควงสำเภาผยอง ลิ่วรอบ5 ไทยคมเอฟเอคัพ


มังกรไฟ บีอีซี เทโรศาสนได้ 2 ประตูในท้ายครึ่งหลัง จากฝีเท้า วุฒิชัย ทาทอง และอานนท์ สังสระน้อย บุกไปเอาชนะ จันทบุรี ถึงถิ่น 2-0 ขณะที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถูกทีทีเอ็ม บุกมาเฉือนชนะ 1-0 จาก บีคอมโบ้ เอคโคโล่ ผ่านเข้ารอบต่อไปสำเร็จ


ผลการแข่งขัน “มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2009” รอบ 4 เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมาทำการฟาดแข้ง 2 คู่จาก 2 สนามมีดังนี้


ที่สนามกีฬากลาง จ.จันทบุรี “กระต่ายป่า” จันทบุรี ทีมจากดิวิชั่น 1 พบกับ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรฯ ทีมอันดับ4 ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะ สงขลามา 3-2 เกมครึ่งแรกทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง บีอีซี เทโรฯแก้เกมมาดี นาทีที่ 60 เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ชาคริต บัวทอง ตักบอลให้ อาเรียน อคาซู ขึ้นโหม่งบอลล้ำเขตประตูไปแล้วทั้งใบก่อนที่ พิเชฐ ไตรภูมิ จะปัดออกแต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นสกอร์ กระทั้งเข้าสู่ น. 69 จักรพันธ์ แก้วพรหม วางบอลให้ วุฒิชัย ทาทอง หลุดเข้าไปยิงให้ บีอีซี เทโรฯ นำ 1-0 ต่อมา นาทีที่ 89 ปณัย คงประพันธ์ ไหลบอลให้ อานนท์ สังสระน้อย สับไกซัดจ่อๆ ให้ เทโรฯเอาชนะไป 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ5 ต่อไป


อีกคู่ที่สนามกีฬากลางจ.พระนครศรีอยุธยา “มนุษย์ไฟฟ้า” การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พบกับ าสำเภาผยอง าทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 ก่อนที่ครึ่งหลัง น. 64 บีคอมโบ้ เอคโคโล่ ยิงให้ทีม ทีทีเอ็มฯนำ 1-0 เกมหลังจากนั้นไม่มีทีมไหนทำอะไรกันได้จบเกมด้วยสกอร์นี้ ทำให้ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ผ่านเข้าสู่รอบห้า ต่อไป


โดยทีมที่ตกรอบนี้จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท เวลานี้ได้ 6 ทีมอย่าง นครราชสีมา ,สุราษฎร์ธานี,การท่าเรือไทยเอฟซี,แบ็งค็อก ยูไนเต็ด ,บีอีซีเทโรฯ และ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร เหลืออีก 2 ทีมก็จะได้ครบโควต้า 8 ทีมในรอบ 5 สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปในวันที่ 23 ก.ย.นี้มีดวลแข้ง 2 คู่จาก 2 สนาม สนามอบจ.สระบุรี เริ่ม 17.00 น. โอสถสภา เอ็ม - 150 พบ ชลบุรี เอฟซี, สนามกีฬากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่ม 15.30 น. สมาคมกีฬากรุงเก่า พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี


ข้อมูล http://www.thairath.co.th/

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

ร็อบสันเนื้อหอม ทีมดังกรีซ ทาบนั่งกุนซือ


ปัญหาเรื่อง ปีเตอร์ รีด เพิ่งจบไป แต่ปัญหาใหม่ก็เข้ามา เมื่อ โอลิมเปียกอซ แชมป์ลีกกรีซ 5 สมัยติด เตรียมฉก ร็อบสัน ไปคุมทีมตัดหน้าทีมไทย


วันนี้(16ก.ย.) สำนักข่าว เดลีเมล์ ของอังกฤษตีแผ่ว่า โอเลิมเปียกอส สโมสรดังแห่งลีกกรีซ ให้ความสนใจที่จะดึงตัว ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันมาร์เวลแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และทีมชาติอังกฤษ มาเป็นกุนซือของทีม แทนที่ เตมู เคสบายา อดีตนักเตะทีมชาติจอร์เจีย ที่เพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งไปไม่นานนี้


เคสบายา คุมทีมโอลิมเปียกอส ออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยผลงานอันย่ำแย่ บอร์ดบริหารของทีมดังแห่งกรีซ จึงตัดสินใจสั่งปลดออกจากตำแหน่ง ก่อนลงสนาม ยูฟาแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่จะพบกับ เอแซด อัล์คมาร์ ของฮอลแลนด์ ในคืนนี้


โดย ร็อบสัน ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวว่าถูกทาบทามจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้เข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทย แทนที่ปีตอร์ รีด ที่ชิ่งหนีไปเป็นผู้ช่วยกุนซือให้กับ สโต๊ก ซิตี ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และมีการเปิดเผยจากนายกสมาคมฯ อย่าง นายวรวีร์ มะกูดี ว่าก่อนหน้านี้ ร็อบสัน ยังให้ความสนใจที่จะมาเป็นกุนซือทีมชาติไทยอยู่ ซึ่งความชัดเจนในเรื่องนี้ น่าจะได้รู้ภายในสัปดาห์หน้า


ข้อมูล http://www.thairath.co.th/

"กิเลน" แจงแผนยกระดับเปาไม่ใช่จับผิดอย่างเดียว


รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด พูดถึงแนวทางยกระดับผู้ตัดสินที่หารือกับเหล่าตัวแทนสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกว่าไม่ได้จ้องจับผิดหรือมุ่งโจมตีเพียงอย่างเดียว แต่จะมีบทบาทในการร่วมกันพัฒนาวงการลูกหนังไปพร้อมๆ กัน


สืบเนื่องจาก พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทีมทีโอที เอฟซี ได้เชิญตัวแทนจากทั้ง 16 สโมสรในศึกไทยพรีเมียร์ลีกมาประชุมกัน เพื่อหาแนวทางในการยกระดับผู้ตัดสิน เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากมีหลายทีมออกมาพูดว่าการทำหน้าที่ของบรรดาสิงห์เชิ้ตดำยังไม่ได้มาตรฐานหรือมีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร


โดยที่ประชุมได้สรุปออกมาว่าจะมีทั้งแนวทางในระยะสั้น คือ 1. เสนอให้มีการนำเทปการแข่งขันมาพิจารณาในแมตช์ที่เกิดความผิดพลาด 2. เสนอบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ให้เพิ่มรายได้ในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน 3. เพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของผู้ตัดสิน รวมถึงจัดยานพาหนะรับส่ง


ส่วนแนวทางระยะยาว มีดังนี้ 1. ตัวแทนจากสโมสรเข้าร่วมทำงานกับบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก เพื่อร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหาต่างๆ ในอนาคต 2. จัดกิจกรรมหรือการอบรมเพื่อเสริมสร้างจรรยาบรรณให้กับผู้ตัดสิน 3. เสนอคณะกรรมการผู้ตัดสินให้สลายขั้วอำนาจต่างๆ เพื่อให้การทำหน้าที่เป็นไปอย่างยุติธรรม 4. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน 5. เพิ่มรายได้ผู้ตัดสินในระยะยาว โดย บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นผู้ประเมินงบประมาณ หากขาดเหลือ 16 สโมสรในไทยลีกจะเข้ามาช่วย


ด้าน รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ที่เข้าร่วมประชุมด้วยออกมาชี้แจงถึงแนวทางการยกระดับตุลาการสนามว่า “ในช่วง 6 นัดสุดท้ายคงทำอะไรได้ไม่มากนอกจากลดข้อผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ให้ผู้ตัดสินรู้มาตรฐานการทำหน้าที่โดยเร็วด้วยการนำเทปการแข่งขันมาหารือร่วมกับ 2 ทีมในคู่ที่มีปัญหา หากพบว่าผิดพลาดจริงก็ดำเนินการลงโทษได้ แต่เราก็คำนึงถึงผู้ตัดสินด้วยโดยอยากให้พวกเขาได้ค่าตอบแทนมากขึ้น และมีการดูแลความปลอดภัยที่ดีขึ้น เพื่อให้อุ่นใจเวลาลงทำหน้าที่”


เสี่ยเป้” แสดงความคิดเห็นต่อการเสนอแนวทางต่างๆ ว่า “ที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากคุณภาพและคุณธรรมของผู้ตัดสิน โดยในส่วนของคุณธรรมเราต้องหาทางรณรงค์และมีการตรวจสอบเช่นเดียวกับนักการเมือง ซึ่งเราก็อยากให้มีองค์กรตรวจสอบผู้ตัดสินบ้าง เพราะการตัดสินมีผลต่อเกมและทีมที่ลงแข่งขันมาก เราหวังว่า บ.ไทยพรีเมียร์ลีกจะรับฟังเนื่องจากนี่เป็นเสียงสะท้อนจากสมาชิกสโมสรในไทยลีก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อไปที่ผู้ตัดสินจะได้รับการยอมรับมากขึ้น”


ส่วนกรณีที่มีการลงโทษ สัญญา ขันธวิธิ ไลน์แมนที่ยกธงล้ำหน้าผิดพลาดในเกม พัทยา ยูไนเต็ด เสมอ เมืองทองฯ 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยการห้ามทำหน้าที่ 3 เดือน ผจก.ทั่วไปกิเลนผยองบอกว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องและอยากให้สโมสรยื่นเรื่องทักท้วงได้ “จังหวะนั้นลีซอ (ธีรเทพ วิโนทัย) ออกตัวหลังกองหลังพัทยาถึง 3 คน และไลน์แมนก็รอจนถึงบอลแล้วค่อยยกซึ่งมันช้ามาก ถ้ายกตั้งแต่ออกตัวยังพอเข้าใจได้ว่าเป็นความผิดพลาด ส่วนบทลงโทษอาจดูรุนแรงก็จริงแต่ลีกเหลือเพียง 1 เดือนก็จะจบแล้ว อีก 2 เดือนที่เหลือก็แทบไม่มีผลอะไร และการตัดสินก็มีผลต่อการลุ้นแชมป์ของเมืองทองฯ ด้วยจึงอยากให้พิจารณาบทลงโทษใหม่”


“หากมีความผิดพลาดจากผู้ตัดสินเกิดขึ้นอีก ผมคิดว่าทุกทีมมีสิทธิทักท้วงได้ ซึ่งเราต้องแยกให้ออกระหว่างสิทธิกับสปิริต การประท้วงไม่ได้หมายความว่าไม่มีสปิริตแต่มันเป็นสิทธิมากกว่า ส่วนเรื่องสปิริตเราก็ยอมรับว่าในเกมฟุตบอลไม่มีใครเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้ เพียงแต่สโมสรควรได้รับความเป็นธรรมบ้าง” ขาใหญ่กิเลน ทิ้งท้าย


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ฟุตบอลไทยประชุม 16 ทีมไทยลีก


16 ทีมไทยพรีเมียร์รวมพลัง หวั่น 6 เกมสุดท้ายเจอผู้ตัดสินไม่ยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ตัดสิน โดยมี "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ยืนยันไม่จ้างผู้ตัดสินจากต่างประเทศเข้ามาทำหน้าที่แน่นอน


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 กันยายน ที่อาคารกีฬา สปอร์ตคอมเพล็กซ์ บมจ.ทีโอที มีการประชุม 16 ทีมไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมกับมีการพิจารณาเลือกประธานและกรรมการเพื่อเป็นตัวแทน 16 ทีมไทยพรีเมียร์ลีก ในการนำข้อเสนอจากที่ประชุมไปยื่นเรื่องต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และคณะกรรมการผู้ตัดสิน โดยก่อนการประชุมได้มีการเสนอชื่อให้นายพงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ สภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และผู้จัดการทีมทีโอที เป็นประธาน ส่วนกรรมการมี 7 คน ดังนี้ นายอรรณพ สิงห์โตทอง จากชลบุรี, นายสถิตย์ ทวีนุช จากนครปฐม, นายเจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง จากการท่าเรือไทย เอฟซี, นายทวี อัมพรมหา จากโอสถสภา, นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา จากเมืองทอง ยูไนเต็ด, นายสุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ จุฬา ยูไนเต็ด และนายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ จากบางกอกกล๊าส โดยมีวาระแค่ฤดูกาลนี้


นายพงษ์พันธ์ เปิดเผยว่า การเชิญ 16 ทีมไทยพรีเมียร์ลีกมาร่วมหารือกันวันนี้ไม่ได้ใครมีอคติกับผู้ตัดสิน แต่เป็นการหาแนวทางเพื่อยกระดับมาตรฐานผู้ตัดสิน ซึ่งปัจจุบันหลายทีมประสบปัญหากับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินอยู่เป็นประจำ ทั้งที่มีการทำหนังสือรายงานพร้อมทั้งซีดีให้กรรมการพิจารณาทุกครั้งที่มีปัญหา แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับและแจ้งผลกลับมาแต่อย่างใด ดังนั้นการที่มีการระดมสมองจากทุกทีมในไทยลีก ก็เพื่อหาแนวทางปรับปรุงพัฒนาและยกระดับมาตรฐานผู้ตัดสินให้ดีกว่านี้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะให้นำผู้ตัดสินต่างประเทศเข้ามาทำหน้าที่แทนในตอนนี้


“ที่ประชุมหารือกันหลากหลายก่อนได้ข้อยุติ สำหรับแนวทางแก้ไขในระยะสั้นคือ 6 เกมสุดท้ายที่ถือเป็นเกมสำคัญทั้งลุ้นแชมป์และหนีการตกชั้น และเพื่อป้องกันผู้ตัดสินไม่มีความยุติธรรม แบ่งออกเป็น 3 ข้อใหญ่ๆ คือ 1.เมื่อผู้ตัดสินผิดพลาดจะเชิญผู้แทนจากคณะกรรมการผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอล และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมจะนำซีดีมาเปิดดูและร่วมกันวิเคราะห์ หากผู้ตัดสินผิดพลาดก็ต้องมีบทลงโทษทันที 2.หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้วต้องอัดซีดีแจกให้ 2 ทีมที่แข่งขัน คณะกรรมการผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอล และบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก โดยบริษัทไทยลีกต้องออกค่าใช้จ่าย และ 3.การดูแลความปลอดภัยผู้ตัดสินและการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้มากกว่านี้ หลังจากนี้จะเร่งทำเป็นจดหมายปิดผนึกส่งไปที่สมาคมฟุตบอลภายในสัปดาห์นี้ และยืนยันจะไม่มีการจ้างผู้ตัดสินจากต่างประเทศเข้ามาทำหน้าที่ในตอนนี้อย่างแน่นอน”


นายพงษ์พันธ์เผยอีกว่า นอกจากจะมีการหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขผู้ตัดสินระยะสั้นแล้ว นายสมชาย ทรัพย์เพิ่ม จากทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด เสนอให้ทำแผนระยะยาวควบคู่ไปด้วย โดยเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานจากผู้แทน 16 ทีมไทยพรีเมียร์ลีกสำหรับฤดูกาลหน้า การสร้างจริยธรรมให้ผู้ตัดสิน ต้องมีทีมงานเพื่อทำการตรวจสอบผู้ตัดสิน และควรจะเพิ่มเบี้ยเล้ยงให้ผู้ตัดสินมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งหนึ่ง


ข้อมูล www.komchadluek.net/

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

เชียงใหม่ทุ่ม10ล.มุ่งอาชีพ ล่าแชมป์ภูมิภาค


เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทีมในระดับ ดิวิชั่น 2 เปิดโผกรรมการบริหารชุดใหม่พร้อมประกาศกร้าวขอขึ้นชั้นปีหน้า โดยทุ่มทุนสร้างนับ 10 ล้าน.....


นายชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด กล่าวว่า เป้าหมายหลักของทีมที่ตั้งไว้ก็คือการก้าวขึ้นสู่การแข่งขันในระดับไทย พรีเมียร์ลีก แต่เรื่องของระยะเวลานั้นก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่คาดเอาไว้ว่าในระดับดิวิชั่น1 จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปีต่อจากนี้ส่วนระดับพรีเมียร์ลีกนั้น ก็ไม่เกิน 2 ปี เช่นกัน นั่นเป็นเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ โดยในปีต่อไปตั้งงบไว้คร่าวๆประมาณ10 ล้านบาท เพื่อทำทีมให้ขึ้นสู่ดิวิชั่น1 ให้ได้เป็นอันดับแรก


ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด กล่าวอีกว่า ปัจจัยหลักของการทำฟุตบอลอาชีพเรื่องของผู้สนับสนุนนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก รองลงมาคือเรื่องของทีมงาน แต่ตอนนี้เราได้มาคุยกับผู้ใหญ่ในแวดวงธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในจังหวัด เชียงใหม่ อาทิ นายธนพล ฟูศรีเจริญ ตำแหน่งเลขานุการประธานสโมสรฯ และ พล.อ.วิภาส ตันสุหัช ในตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ที่สำคัญคือเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่มีหัวใจรักฟุตบอลเมื่อคุยกันแล้วรู้สึกว่า ได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่จะทำทีมฟุตบอลของชาวจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นทีม ที่แข็งแกร่งต่อไป นอกจากนั้นแล้วคณะผู้บริหารทีมฯได้มีการทาบทามอดีตนักเตะทีมชาติไทยมาเป็น ทีมสตาฟโค้ชแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้รับรองว่าแฟนบอลชาวเชียงใหม่ต้อง ไม่ผิดหวัง นอกจากนั้นยังมีแผนการดึงตัวนักเตะดาวดังเข้าร่วมทีมอีกด้วย.


ข้อมูล http://www.thairath.co.th/

‘ซิโก้’ ลั่นฉลามชลเปิดรังงาบเหงียน 8 ทีมเอเอฟซีคัพ


“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ลั่นสั่งลูกทีมเดินเกมรุกเพื่อเอาชนะ บินห์ เหยือง สโมสรชั้นนำจากเวียดนาม ให้จงได้ในศึกลูกหนังเอเอฟซี คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เย็นวันอังคารนี้

ชลบุรี เอฟซี ทีมหัวแถวของไทยพรีเมียร์ลีก เตรียมเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน ต้อนรับการมาเยือนของ บินห์ เหยือง ในฟุตบอลเอเอฟซี คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เวลา 18.30 น. พรุ่งนี้ ก่อนมีคิวไปเยือนแดนเหงียน ตัดสินชะตาเข้ารอบวันที่ 30 ก.ย.นี้ต่อไป

ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงข่าว 127 ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน มีการแถลงความพร้อมการฟาดเกือกกันของทั้งสองทีม โดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อดังนี้ “นี่ถือเป็นเกมหนักสำหรับ ชลบุรี เอฟซี เพราะคู่แข่งมีนักเตะฝีเท้าดีอยู่หลายคน โดยเฉพาะแข้งต่างชาติ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เล่นในบ้านก็ต้องเปิดเกมบุกเข้าใส่ตามสไตล์ถนัดของเรา โดยผมจะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เนื่องจากถ้าเราเก็บชัยนัดแรกได้ เกมเยือนนัดที่สองขอแค่เสมอก็จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแล้ว”

ด้าน ไม เดือก เทือง กุนซือบินห์ เหยือง กล่าวเช่นกัน “ต้องบอกว่านัดนี้เสมือนการเจอกันระหว่างทีมชาติไทยกับเวียดนาม เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็มีแข้งทีมชาติด้วยกันหลายคน จึงเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีก็ว่าได้ โดยเราจะวางแผนให้รัดกุมและจะไม่ประมาทเป็นอันขาด ซึ่งเราหวังผลเสมอกลับไปเป็นอย่างน้อย เพื่อที่จะทำให้การเล่นนัดที่สองที่บ้านตัวเองนั้นง่ายขึ้น”

ส่วนสภาพความพร้อม “ฉลามชล” เพิ่งเปิดบ้านบดเอาชนะ สมุทรสงคราม เอฟซี 2-0 ในเกมไทยพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย “ซิโก้” จัดการพัก อาทิตย์ สุนทรพิธ มิดฟิลด์ทีมชาติไทยเพื่อเก็บความสดเอาไว้เจอกับ บินห์ เหยือง โดยเฉพาะ อีกทั้งเกมเอเอฟซี คัพ ชลบุรี ยังสามารถส่ง ไมเคิล เบิร์น และ คนึง บุราณสุข ลงล่าตาข่ายได้ หลังจากสโมสรลงทะเบียนใส่ชื่อแข้งใหม่ทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านของทีมเยือนมี เคสลีย์ อัลเวส ดาวยิงบราซิเลียนที่โอนสัญชาติมาเป็นเวียดนาม รวมถึง ฟิลานี กองหน้าจากแอฟริกาใต้ เป็นตัวชูโรง

สำหรับแฟนๆ ลูกหนังที่สนใจไปให้กำลังเชียร์ “ฉลามชล” ลุยศึกเอเอฟซี คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันกันได้ที่ซุ้มแฟนโซน ตั้งแต่เวลา 15.00 น. บัตรมีราคา 100 และ 200 บาท โดยนัดนี้ทาง “ทรูวิชันส์” จะดำเนินการถ่ายทอดสดผ่านช่อง “ทรูสปอร์ต 2” ในเวลา 18.30 น. ด้วย


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

“กระต่าย” เจ๊า “มังกร” สุดมัน, จุฬาฯคว้า 3 แต้ม !!


“กระต่ายแก้ว”บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดบ้าน เสมอ บีอีซี เทโรศาสน ไปอย่างสุดมัน 3-3ชนิดประทับใจแฟนบอล โดยกระต่ายแก้วมาตีเสมอได้ในช่วงก่อนหมดเวลาเพียงแค่นาทีเดียว ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่24 ด้าน “เสือสามย่าน” จุฬาฯยูไนเต็ด สามารถคว้าชัยชนะนัดแรกในเลกที่ 2 ได้เสียที โดยเ ปิดบ้านเอาชนะ การไฟฟ้าฯ3-1 ทำแต้มห่างจากโซนตกชั้นเหลือ 5 คะแนน ส่วน ชลบุรี เอฟซี พิชิต สมุทรสงคราม เอฟซี ไปสบายเกือก 2-0 ทำแต้มเท่าจ่าฝูง “เมืองทอง”เป็นที่เรียบร้อยที่ 50 คะแนนเท่ากัน แต่ฉลาม แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552 บางกอกกล๊าส เอฟซี 3 – 3 บีอีซี เทโรศาสน ศึกบิ๊กแมตช์ไทยลีกสัปดาห์นี้ เป็นการดวลแข้งระหว่างทีม "แรบบิท" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 3 มี 43 แต้ม เปิดรังสนามเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา คลอง 6 รับมือ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 4 โดย เทโรฯ แต้มตามหลัง บางกอกกล๊าส 3 แต้ม โดยฟอร์มของ บางกอกกล๊าส ในบ้านไม่เคยแพ้ใคร ชนะ 9 เสมอ 3 นัด ส่วน เทโรฯ ก็ฟอร์มฮอต ชนะรวดมา 6 นัดติดต่อกัน เริ่มเกมมาทั้งสองทีมทำเกมได้อย่างคู่คี่สูสี แต่เป็นทีมเยือน บีอีซี เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน ในนาทีที่ 33 อานนท์ สังสระน้อย หลุดไปซัด ติดผู้รักษาประตูบางกอกกล๊าส แต่บอลเด้งมาเข้าทาง จึงซ้ำไปไม่เหลือ มังกรไฟขึ้นนำ 1-0 3 นาทีถัดมา"มังกรไฟ" มาพังประตูที่ 2 ได้อีกเมื่อ ชาคริต บัวทอง ได้บอลทางกราบขวา ก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัวลากหลบกองหลังบางกอกกล๊าสถึง 2 รายก่อนยิงด้วยซ้ายบอลเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ทำเอากองเชียร์ทีมเยือนมั่นใจว่าจะชนะกันเป็นแทบ หมดครึ่งเวลาแรกมังกรไฟนำ 2-0 กลับมาเล่นครึ่งหลังได้เพียง 5 นาที เจ้าบ้านไล่มาเป็น 2-1 จากลูกสับไกบริเวณนอกเขตโทษ ของ ธนัตถ์ วงค์ศุภลักษณ์ เล่นเอากองเชียร์เจ้าบ้านเฮกันดังลั่นสนาม “กระต่ายแก้ว” ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ และในนาทีที่ 60 มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ จาก หัวหอกตัวเก่ง อาจายี่ ซามูเอล ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง บีอีซี ที่โดนไป 2 ลูกติดๆกัน เริ่มตั้งหลักและรวบรวมสมาธิกลับมาได้ โดยใช้ลูกสวนกลับเป็นหลัก และในนาทีที่ 76 บีอีซี ทำประตูขึ้นอีกครั้ง โดยชาคริต บัวทอง คนเดิมได้ลูกส้มหล่นจากลูกเตะมุมก่อนกดด้วยขวาในระยะเผาขน ส่งมังกรผงาด 3-2 กระต่ายแก้ว ไม่มีทางเลือก ต้องดาหน้าเปิดเกมรุกสถานเดียว และมาได้ลูกตีเสมอสำเร็จอีกหน 3-3 ก่อนหมดเวลาเพียงไม่กี่นาทีจากการทำประตของ ชาตรี ฉิมทะเล ส่งกองเชียร์มีความสุขก่อนกลับ หมดเวลาด้วยสกอร์นี้ แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน โดยทั้ง 2 ทีมรั้งอันดับ 3และ4 ตามเดิม รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษณะ กลั่นกลิ่น, ศุภชัย คมศิลป์, อำนาจ แก้วเขียว, ไกรเกียรติ เบียดตะคุ, ทะนงศักดิ์ ประจักกะตา, อนนท์ บุญสุโข, ศรัณย์ พรมแก้ว, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, โคเน่ คาสซิม, อนาวิน จูจีน , ชาตรี ฉิมทะเล บีอีซี เทโรศาสน : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, นพพล ปิตะฝ่าย, ธฤติ โนนศรีชัย, ทัศนา แช่มสะอาด, กีร์ ฮูเบิร์ท, จักรพันธ์ แก้วพรม, อาเรียน อคาซู, กิตติพล ปาภูงา, ชาคริต บัวทอง, อานนท์ สังสระน้อย, วุฒิชัย ทาทอง ผลฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันเสาร์ที่ 12 กันยายน จุฬา ยูไนเต็ด 3 - 1การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนาม จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ชลบุรี เอฟซี 2 -0 สมุทรสงคราม เอฟซี สนาม สิรินธร บางกอกกล๊าส เอฟซี 3 – 3 บีอีซี-เทโร ศาสน สนาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง 6
ข้อมูล www.manager.co.th

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

“ฉลามชล” หวัง 3 แต้มเปิดบ้านรอทุบ “ปลาทูคะนอง”


ไล่บี้จ่าฝูง เมืองทองฯ ด้าน “เจ้าบุญทุ่ม” เตรียมบุกบ้านบางกอกกลาส โดยหากชนะจะได้ขึ้นที่ 3 ส่วนจุฬาฯ หวังตัดไฟ กฟภ.หนีตาย... ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความพร้อมของศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เลกสอง ในวันเสาร์ที่ 12 ก.ย.2552 นี้ มีเตะด้วยกันทั้งหมด 3 คู่ใน 3 สนาม ประกอบด้วย ชลบุรี เอฟซี พบ สมุทรสงคราม ที่สนามสิรินธ จ.ชลบุรี เวลา 18.00 น.ทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี พบ บีอีซีเทโรศาสน ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา คลอง 6 ปทุมธานี เวลา 17.00 น. (สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสด ตั้งแต่เวลา 16.30 น.) และจุฬายูไนเต็ด พบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่สนามจุฬาฯ (หญ้าเทียม ) เวลา 16.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคู่บิ๊กแมตช์จะเป็นการลุ้นชิงอันดับที่ 3 ของตารางไทยลีก โดยเป็นการดวลแข้งระหว่างทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่รั้งอยู่อันดับ 3 ของตาราง มี 43 แต้ม เปิดรังรับการเยือนของทีม บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 4 โดยเทโรฯ แต้มตามหลังบางกอกกล๊าสแค่ 3 แต้ม และฟอร์มกำลังฮอต ชนะรวดมา 6 นัดติดต่อกัน“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือชลบุรี รองจ่าฝูง กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า ขณะนี้ สภาพทีมถือว่าพร้อม มีเพียงผู้เล่นที่บาดเจ็บ คือ เอกพันธุ์ อินทะเสน ที่เจ็บเข่าเพียงคนเดียว แต่จะมีตัวทดแทนคือ คะนึง บุราณสุข ขณะที่ โคเน่ โมฮาเหม็ด กองหน้าตัวเก่งของทีมพ้นจากโทษแบนกลับมาแล้ว นัดนี้ได้เล่นในบ้านได้เปรียบเสียงเชียร์ หวังจะเก็บชัยชนะเพื่อทำแต้มกดดันเมืองทองฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง ที่จะลงเตะในวันอาทิตย์ให้ได้ด้าน “โค้ชฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือใหญ่ ทีม “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 9 ของตาราง กล่าวว่า ตัวเองความมั่นใจว่าจะสามารถบุกไปเก็บแต้มจากชลบุรีได้เหมือนปีที่แล้ว ที่บุกไปเสมอมาได้ 0-0 ทำให้ทีมชลบุรีชวดแชมป์ โดยนัดนี้จะไม่มีกองกลางตัวเก่งอย่าง พัชรินทร์ สุกใส กองกลางตัวเก่งที่ติดโทษแบน ส่วนกองหลัง สุขสยาม ชาญมณีเวช และเอกศักดิ์ บัวเบา ก็เจ็บ แต่ไม่น่าจะมีปัญหา พร้อมเตือนชลบุรี ถ้าประมาทก็มีสิทธิ์น้ำตาตกคาบ้านได้“เดอะแบน” ตะวัน ศรีปาน กุนซือของบีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 4 กล่าวว่า เกมนี้ไม่กดดันเท่ากับเขาที่เป็นเจ้าบ้านและมีสถิติสวยงามยังไม่เคยแพ้ใครในบ้านตัวเองมาก่อน ศักยภาพของผู้เล่นที่มีอยู่ที่ระยะหลังทุกคนเล่นกันได้อย่างมั่นใจ เชื่อว่าทีมจะบุกมาเก็บแต้มกลับออกไปได้อย่างแน่นอน โดยหวังถึงชนะเพื่อจะแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 แทน ส่วน “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่ จุฬา ยูไนเต็ด ทีมบ๊วย ที่ใกล้ตกชั้นเต็มที นัดนี้ต้องรับการมาเยือนของกฟภ.กล่าวว่า เกมนี้ไม่มีรับแน่ต้องเน้นชนะทุกนัดที่เหลือให้ได้เพื่อความอยู่รอด โดยนัดนี้จะส่ง 2 นักเตะบราซิลเล่นเป็นหัวหอกคู่กันเลยทั้ง อารอน ดาซิลวา และ เนโต้ เพื่อหวังเก็บ 3 แต้มจาก กฟภ.ให้ได้
ข้อมูล www.thairath.co.th/

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

"กระต่าย" จ้องดับซ่า "บีอีซี", 'ฉลาม' มั่นใจงับ "ปลาทู" !!


“เดอะง้วน"สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ โค้ชมากฝีมือ ของทีม "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล็าส เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของตารางไทยพรีเมียร์ลีก ออกมาเผยว่าลูกทีมมีทีเด็ดยามเล่นในบ้าน และจะยัดเยียดความปราชัยให้กับทีม 'มังกรไฟ’ บีอีซี เทโรฯ ที่ชนะรวดมา 6 นัดติดได้แน่ พร้อมโวผู้เล่นทุกคนต่างทดแทนตำแหน่งกันได้หมด ด้าน ‘ซิโก้’ มั่นใจคว้า 3 แต้มในบ้านได้แน่เนื่องจากได้ตัวหลักกลับมากันครบ ในวันพฤหัสที่ 10 กันยายน 2552 มีงาน "MEET THE PRESS" แถลงความพร้อมก่อนแข่ง ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 24 ณ ที่ทำการสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีการจัดแถลงข่าวทุกสัปดาห์ เพื่อยกระดับลีกไทยสู่มาตรฐานสากล โดยเชิญผู้เล่น และโค้ชจาก 3 คู่ใหญ่ของแต่ละสัปดาห์มาพูดคุยเกี่ยวกับความพร้อมด้านต่างๆของทีม สำหรับวีคนี้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก มีคิวลงสนาม ครบทั้ง 16 ทีม โดยแบ่งเป็น 2 วัน เสาร์-อาทิตย์ เช่นเคย โดยเลือกนำ 3 คู่เอก มาแถลงความพร้อมดังต่อไปนี้ ชลบุรี เอฟซี พบ สมุทรสงคราม เอฟซี , บางกอกกล๊าส เอฟซี ปะทะ บีอีซี-เทโร ศาสน และ นครปฐม เอฟซี - ราชนาวี ระยอง โดยโค้ช "ซิโก" ออกมาเผยในการเตรียมความพร้อมล่าสุดของทีมชลบุรีว่า "7 นัดที่เหลือชลบุรี ได้เล่นในบ้านถึง 4 นัด ซึ่งตรงนี้ผมกำชับลูกทีมเสมอว่าเล่นในบ้านต้อง 3 แต้มเท่านั้น และนัดนี้ผมมั่นใจว่าลูกทีมจะสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ เนื่องจากตัวเจ็บกลับมากันครบ และโคเน โมฮัมเหม็ด หอกตัวเก่งก็พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว บวกกับได้เสียงเชียร์ที่สามารถกดดันทีมเยือนได้" ด้าน "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือทีมเมืองแม่กลอง ก็ออกมาเผยถึงการไปเยือนรัง ‘ฉลามชล’ ว่า "ยอมรับว่าทีมป็นรองทีมชลบุรีอยู่พอสมควร แต่เวลานี้ลูกทีมมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นจากนัดที่ผ่านมาที่สามารถเอาชนะทีม ศรีราชามาได้ 2-0 เชื่อว่าลูกทีมจะมีลูกฮึดสู้กับ ชลบุรีได้ตลอด 90 นาทีเต็มได้อย่างสนุกแน่" ส่วนคู่เอกของสัปดาห์ที่ สนาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 ‘กระต่ายแก้ว’บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของตาราง พบกับ บีอีซี-เทโร ศาสน ทีมอันดับ 4 โดย "โค้ชง้วน" ไสุรชัย จตุรภัทรพงศ์ เฮดโค้ช 'บีจี' เผยว่า “ยอมรับว่าเวลานี้ บีอีซี ฟอร์มการเล่นดีมาก เล่นสวยงาม แต่เมื่อมาเยือนที่สนาม คลอง 6 เชื่อว่าทีมเยือนต้องมีแกว่งบ้าง โดยผมจะใช้การเล่นที่ดุดันเข้าสู้ เชื่อว่าเกมจะออกมาสนุกแน่” ขณะที่ บีอีซีฯ ซึ่งกำลังลุ้นเก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 7 ติดต่อกัน วันนี้ส่งอิทธิชัย ธนวิภาคะนนท์ เลขาฯของทีม มาให้สัมภาษณ์ในงานแถลงก่อนการแข่งขันว่า “ผู้เล่นทุกคนกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ และที่สำคัญไม่มีตัวเจ็บและแบน และหากเก็บ 3 คะแนนได้อีก ก็จะมีเงินอัดฉีดให้ลูกทีมอีก" สำหรับคู่ นครปฐม เอฟซี - ราชนาวี ระยอง "หมูเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 14 ของตาราง แมตช์นี้ต้องเก็บแต้มให้ได้หากไม่อยากตกชั้น โดย กุนซือนครปฐม อนุสรณ์ ชุ่มดวงใจ ออกมาเผยว่า "สัปดาห์นี้ไม่มีตัวเจ็บและแบน แมตช์ที่ผ่านๆมาลูกทีมเล่นกันได้ดีแล้ว แต่ปัญหาของนครปฐมอยู่ที่การจบสกอร์ เชื่อว่าหากแก้ปัญหานี้ได้วันอาทิตย์นี้ เก็บ 3 แต้มได้แน่" ด้าน นาวาเอก บุญธรรม พันธุ์นุช ผู้ช่วยโค้ช ของราชนาวี-ระยอง แถลงถึงความพร้อมล่าสุดของทีมว่า "ราชนาวีก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเก็บ3 แต้มออกมาให้ได้ เกมที่ผ่านๆมาเรามีปัญหาตัวเจ็บและแบนเยอะ ทำให้ผลงานออกมาไม่ดี แต่เกมนัดนี้ลูกทีมฟิตพร้อมทุกราย มั่นใจว่าจะบุกไปเอาชนะนครปฐมได้" โปรแกรมการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 24 มีดังนี้ 12 กันยายน 2552 16.00 น. จุฬา ยูไนเต็ด - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนาม จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 18.00 น.ชลบุรี เอฟซี - สมุทรสงคราม เอฟซี สนาม สิรินธร 18.00 น. บางกอกกล๊าส เอฟซี - บีอีซี-เทโร ศาสน สนาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 13 กันยายน 2552 16.00 โอสถสภา เอ็ม 150 - ทีโอที เอฟซี ธนารมณ์ ลำลูกกา 17.00 การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. - ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร การท่าเรือ คลองเตย 17.00 นครปฐม เอฟซี - ราชนาวี ระยอง ม.เกษตร กำแพงแสน 18.00 พัทยา ยูไนเต็ด - เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เทศบาลตำบลหนองปรือ 18.00 ศรีราชา เอฟซี - แบงคอก ยูไนเต็ด สิรินธร
ข้อมูล www.manager.co.th

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ปิดฉาก!! "รีด" รับงานผู้ช่วยช่างปั้นหม้อเรียบร้อย


ปีเตอร์ รีด โค้ชชาวอังกฤษกลายเป็นอดีตกุนซือทีมชาติไทยโดยสมบูรณ์แบบแล้ว หลังจาก สโต๊ค ซิตี ประกาศแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมเป็นที่เรียบร้อย ด้านเจ้าตัวยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี

ให้หลังจากที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาเปิดเผยว่ายกเลิกสัญญาของ รีด ที่ยังเหลืออยู่ 3 ปีแล้ว หลังจากตกลงกับกุนซือวัย 53 ปีผ่านทางโทรศัพท์ข้ามทวีปว่าจะปล่อยให้กลับไปรับงานหมายเลข 2 ในถิ่นบริททานเนีย สเตเดียม แทนที่จะควบ 2 ตำแหน่งอย่างที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ ล่าสุด “ช่างปั้นหม้อ” ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของสโมสร stokecityfc.com ว่าแต่งตั้ง รีด เข้ามาเป็นผู้ช่วยของ โทนี พูลิส ซึ่งอดีตนายใหญ่ทีมชาติไทยออกมาให้สัมภาษณ์หลังรับงานใหม่ว่า “ผมได้บรรลุข้อตกลงกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แล้ว ที่ผ่านมาพวกเขาช่วยเหลือผมเป็นอย่างดีและผมก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ คุณวรวีร์ มะกูดี เหมือนเดิม” “ผมต้องขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากพวกเขาโดยเฉพาะการได้มาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยนับว่าเป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การร่วมงานกับ โทนี พูลิส และสโมสรอย่าง สโต๊ค ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีกก็ยากที่จะปฏิเสธได้เช่นกัน” พร้อมกันนี้ รีด ยังบอกอีกด้วยว่าต้องการคุมทีมชาติไทยต่อ แต่ก็ประเมินแล้วว่าคงทำ 2 จ๊อบพร้อมกันไม่ได้ “ในความเป็นจริงมันยากที่จะให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป แต่ผมกับคุณวรวีร์ก็ได้จับมือกันและตกลงว่าต่างเดินไปตามทางของตนเองดีกว่า ซึ่งผมยังมีเพื่อนอีกมากมายอยู่ที่เมืองไทย และจะคอยติดตามผลงานของพวกเขาต่อไป” ด้าน โทนี พูลิส ผู้จัดการทีมเดอะ พ็อตเตอร์ส กล่าวต้อนรับ รีด เข้ามาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ที่ลุยงานอย่างไม่เป็นทางการไปบ้างแล้วว่า “นับเป็นเรื่องดีที่เราได้ประสบการณ์ของเขาเข้ามาเติมในทีมงานของสโมสร”


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

ท่าเรือยิงโทน ศรีราชาเละ เอฟเอคัพ16ทีม


ท่าเรือเชือดเพื่อนตำรวจ 1-0 พิพัฒน์ยิง ขณะที่ ศรีราชา ถูก แบงคอก ถล่มกระจาย 4-1 ส่วนไทยลีกนัดตกค้าง นครปฐม พ่าย ทีทีเอ็ม 1-2วันนี้(9ก.ย.)ผลการแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย มีการแข่งขันกัน 2 คู่ในวันนี้ ปรากฏว่า สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ชนะ สโมสรเพื่อนตำรวจ 1-0 ในขณะที่ ศรีราชา เอฟซี ถูกแบงคอก ยูไนเต็ด บุกมาถล่มถึงถิ่น 4-1คู่แรก ที่สนามแพท สเตเดี้ยม สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ทีมในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เปิดบ้าน รับการมาเยือนของ สโมสรเพื่อนตำรวจ จากดิวิชัน 1 โดยเจ้าบ้านเป็นฝ่ายได้ประตูชัยจากฝีเทาของ พิพัฒน์ ต้นกันยา ในนาทีที่ 70 ทำให้เฉือนชนะไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปในขณะที่อีกคู่ ศรีราชา เอฟซี เปิดสนามสรินธร จ.ชลบุรี รับการมาเยือนของ แบงคอก ยูไนเต็ด ทีมในระดับไทยพรีเมียร์ลีกด้วยกัน ทางเจ้าบ้าน ถูกทีมเยือน แบงคอก ยูไนเต็ด บุกมาถล่มถึง 4-1 อำไพ มุธาพร ซัดให้เจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0 แต่มาถูกทีมเยือน ยิงคืน 4 ลูกรวด จากยอดรักษ์ นาเมืองรักษ์ ทำเข้าประตูตัวเองและอีก 3 ประตูจาก นพพล ผลอุดม นาทีที่ 36 รามเทพ ชัยแป้น นาทีที่ 48 ศุภเสกข์ ไก่แก้ว นาทีที่ 70 ส่วนการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง ที่สนาม ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม นครปฐม เอฟซี พ่ายคาบ้านต่อ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร 1-2 ทำให้นครปฐม อาการหนัก ใกล้จะตกชั้นสู่ ดิวิชัน 1 ในฤดูกาลหน้า
ข้อมูล http://www.thairath.co.th/

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

จบเห่ "บังยี" กลับไทยไร้เงา "รีด"


"บังยี" วรวีร์ มะกูดี ประมุขลูกหนังไทยบินกลับบ้านไร้เงา ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทย ที่จ้องรับงานผู้ช่วยกุนซือ สโต๊ก ซิตี แห่งลีกผู้ดี ยันรับไม่ได้อดีตแข้งเอฟเวอร์ตันรับงาน 2 จ็อบ ขีดเส้นตายสุดสัปดาห์นี้ไม่โผล่ก็ทางใครทางมัน เมื่อเวลา 15.05 น. ของวันอังคารที่ 8 กันยายน 2552 "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 917 ลอนดอน-กรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศอังกฤษ ในการประชุมบอร์ดบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟา พร้อมกับเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติอังกฤษ กับ สโลวีเนีย รวมไปถึงการนัดพบเพื่อพูคคุยกับ ปีเตอร์ รีด ผู้จัดการทีมชาติไทยที่เปิดเผยผ่านสื่อในเมืองผู้ดีว่าต้องการรับงานตำแหน่งผู้ช่วยกุนซือ โทนี พูลิส ของ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ก ซิตี แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งการเดินทางกลับเมืองไทยครั้งนี้ไร้เงาของ ปีเตอร์ รีด เคียงข้างมาด้วย โดยทันทีที่เดินทางมาถึง "ประมุขลูกหนังไทย" มีสีหน้าเรียบเฉยเมื่อพบว่ามีสื่อมวลชนชาวไทยมารอรับที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิเพียง 4 ชีวิตเท่านั้น โดย วรวีร์ ได้กล่าวถึงการพูดคุยกับ รีด พร้อมทั้งยืนยันว่าตนมีโอกาสพูดคุยกับกุนซือชาวอังกฤษเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และไม่ได้รับการติดต่อกลับอีกเลย "ยืนยันได้ว่าผมได้คุยกับ รีด เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งตอนนั้นระหว่างที่พูดคุยกันก็ได้ข้อสรุปว่าเขาจะยังคงรับงานคุมทีมชาติไทย เพื่อเข้าแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือกแน่นอน จึงมั่นใจว่าเขาจะกลับมาสานงานต่อแน่ แต่พอคล้อยหลัง 2-3 วัน ผมมีความรู้สึกว่าตัวเขาเองก็คงลังเลว่าจะทำงานกับสมาคมฟุตบอลไทยต่อไป หรือจะรับงานผู้ช่วยผู้จัดการทีม สโต๊ก ซิตี" ขณะเดียวกันยังไม่มีรายงานความคืบหน้าว่า ปีเตอร์ รีด ตัดสินใจต่ออนาคตของตนเช่นไร ซึ่งมีการคาดกันว่ากุนซือชาวอังกฤษรายนี้น่าจะเลือกที่กลับไปทำงานในบ้านเกิดในท้ายที่สุด โดย "นายกยี" ยอมรับว่ามีเวลาให้ตัดสินใจเพียงแค่สุดสัปดาห์นี้เท่านั้น "เราควรให้เวลาเขาตัดสินใจอีกสักพัก ซึ่งผมมีเส้นตายว่าภายในสุดสัปดาห์นี้ทุกอย่างน่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน" "ไม่ว่า รีด จะตัดสินใจอย่างไร ผมก็จะเคารพการตัดสินใจของเขา แต่ยืนยันได้เลยว่าส่วนตัวผมรับไม่ได้กับการรับงานควบ 2 ตำแหน่งแน่นอน หากเขาตัดสินใจจะกลับมาทำงานกับทีมชาติไทย ก็คือจะต้องอยู่ทำงานจนครบระยะเวลาของสัญญา 4 ปี ตามที่เคยตกลงกันไว้ เพราะหากยังดึงดันจะควบ 2 ตำแหน่งจะไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาฟุตบอลไทย เชื่อว่าเขาคงไม่มีสมาธิที่จะมาทำงานทั้ง 2 อย่างให้ดีได้พร้อมๆ กันแน่นอน" สำหรับทีมชาติไทยยังมีโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือก กับทีมชาติสิงคโปร์ ในนัดเยือนวันที่ 14 พฤศจิกายน และนัดเหย้าวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้รออยู่
ข้อมูล www.manager.co.th

"โค้ชทู"ลาออก สังเวยรายที่ 9 สโมสรลงขัน จ้างเปานอกเป่า


ไทยพรีเมียร์ลีกดุ "โค้ชทู” ครองพล ดาวเรือง สังเวยเก้าอี้กุนซือเป็นรายที่ 9 ประกาศลาออกจากการทำทีม “บลูมาร์ลิน” ศรีราชา เอฟซี ให้ อภิรักษ์ ศรีอรุณ อดีตจอมทัพธ.กรุงเทพ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่แทน ขณะที่สโมสรสุดทนเชิ้ตดำ “โค้ชก๊อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ เผยกว่า 10 ทีมพร้อมลงขันจ้างเปาต่างแดนทำหน้าที่ช่วงท้ายฤดูกาล โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยินดีเปิดคลังช่วย ด้าน “กิเลนผยอง” เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เร่งสร้างอัฒจันทร์หลังประตูจุ 5,000 ที่นั่งรับมือซูเปอร์แมทช์กับ ชลบุรี เอฟซี ในวันที่ 4 ตุลาคม
ภายหลังจากพาทีมบุกไปพ่าย "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี 0-2 ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทำให้ "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา เอฟซี ยังคงอยู่อันดับรองบ๊วยของตารางคะแนนมีสิทธิ์ตกชั้นจากไทยพรีเมียร์ลีกค่อนข้างสูง ล่าสุด "โค้ชทู" ครองพล ดาวเรือง ที่เพิ่งพาทีม "บลูมาร์ลิน" ขยับจากดิวิชั่น 1 ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นปีแรกได้ตัดสินใจลาออกจากการคุมทีมศรีราชา เอฟซี แล้ว โดยให้เหตุผลว่า ด้วยกระแสและสปิริตที่ต้องรับผิดชอบจึงตัดสินใจลาออก จริงๆ ก็อยากจะออกมานานแล้วแต่ผู้ใหญ่ขอไว้ แต่ถึงตรงนี้คงถึงเวลาและผู้ใหญ่อนุมัติแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วทีมไม่มีปัญหาอะไรเพียงแต่ผลงานไม่ดี ในฐานะโค้ชจึงต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ "เห็นใจแฟนบอลด้วย เพราะบางส่วนก็อยากจะให้เปลี่ยนโค้ชตั้งแต่แรก แต่บางส่วนก็อยากให้ทำต่อ ทว่ามาถึงตรงนี้ผลงานมันไม่ดีขึ้นเลยก็จึงต้องแสดงความรับผิดชอบ แม้ผมจะลาออกไปแต่ขอยืนยันว่าทีมไม่มีปัญหาอะไรเลย ทั้งผมและนักฟุตบอลหรือว่าผมกับผู้ใหญ่ในทีมก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมจึงเสนอให้ดันเอาสตาฟฟ์ที่ทำทีมอยู่อาจจะเป็น ทรงยศ กลิ่นศรีสุข หรือ อภิรักษ์ ศรีอรุณ ขึ้นไปเป็นเฮดโค้ชคนใหม่แทน" ครองพล กล่าว สำหรับศรีราชา เอฟซีมีการแต่งตั้งเฮดโค้ชคนใหม่เรียบร้อยแล้วคือ "เต่า" อภิรักษ์ ศรีอรุณ อดีตนักเตะทีมชาติไทยของธ.กรุงเทพ ซึ่ง อภิรักษ์ ได้เข้ามาช่วย ครองพล ดาวเรือง ทำทีมเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว จึงได้รับความไว้วางใจให้รับทำหน้าที่เฮดโค้ชคนใหม่
การลาออกจากตำแหน่งของ ครองพล ครั้งนี้ถือเป็นโค้ชคนที่ 9 ในฤดูกาลที่ต้องพ้นหน้าที่ก่อนสิ้นสุดฤดูกาล โดยก่อนหน้านี้มี ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ (การท่าเรือไทย), นิพนธ์ มาลานนท์ (จุฬา ยูไนเต็ด), อรรถพล บุษปาคม (ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร), สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ (เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด), ประพล พงษ์พานิช (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค), พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา (พัทยา ยูไนเต็ด), วิสูตร วิชายา (พัทยา ยูไนเต็ด), โจเซ คาร์ลอส เฟอไรรา ดาซิลวา (จุฬา ยูไนเต็ด) และ กิจ มีศรีสุข (ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร) ส่วนปัญหาการตัดสินของผู้ตัดสินในฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกก็ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด “โค้ชก๊อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทีม “ฮัลโหล” ทีโอที เอฟซี เปิดเผยว่า จะทำหนังสือประท้วง พร้อมกับเทปบันทึกภาพการแข่งขันนัดที่แพ้การท่าเรือไทย 1-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะผู้ตัดสินในเกมนั้นทำหน้าที่ผิดพลาดบ่อยมาก ทั้งในจังหวะที่ถูกตีเสมอ และผู้เล่นถูกชักศอกใส่ “ตอนนี้ทีมพัฒนาไปไกลแล้ว คนดูเริ่มมีมาตรฐานไม่ขว้างปาสิ่งของ แต่ผู้ตัดสินกลับพัฒนาช้า เวลานี้ยอมรับว่าตัวเองเป็นหัวหอกในการที่จะระดมเงินจากแต่ละสโมสร ซึ่งมีมากกว่า 10 ทีม ที่สนใจร่วมกันลงทุนเพื่อจ้างผู้ตัดสินจากต่างประเทศมาทำหน้าที่ในช่วงท้ายฤดูกาล เพราะที่ผ่านมาหลายทีมเจอปัญหามาตลอด ฟุตบอลไทยวันนี้ไม่ได้ลงทุนน้อยๆ กันอีกแล้ว ทุกทีมหลักสิบล้านขึ้นทั้งสิ้น” ทั้งนี้ ผู้ตัดสินของไทยเคยถูกจ้างจากต่างประเทศไปทำหน้าที่ในลีกอื่นมาแล้ว อย่างเช่น “เปาอั๋น” ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ไปเป่าในเจลีก 3 เดือน เมื่อปี 2541, ไชยวัฒน์ กันสุธา ไปเป่าที่กาตาร์ลีก ปี 2548 เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และลีกจีน ในปี 2549 เป็นระยะเวลา 1 เดือน ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีปัญหา เราพร้อมจะลงขันช่วยด้วย หากต้องการทำให้มีผู้ตัดสินจากต่างประเทศมาทำหน้าที่ในแมทช์ชี้เป็นชี้ตาย เราพร้อมสนับสนุน เพราะถือเป็นครอบครัวเดียวกัน กฎเกณฑ์บางอย่างสามารถมาพูดคุยกันได้ ต้องเคารพซึ่งกันและกัน
ขณะที่ควันหลงจากวันสนามแตกทำลายสถิติยอดผู้ชมและจำหน่ายบัตรเข้าชมที่สนามธันเดอร์โดม “เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า ต้องขออภัยแฟนบอลที่ซื้อตั๋วเข้ามาแล้วไม่มีที่นั่งชม ซึ่งเราประชาสัมพันธ์ให้ทราบกันก่อนซื้อตั๋วแล้ว อย่างไรก็ตามในเกมพบชลบุรี 4 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ แฟนบอลน่าจะเข้ามามากอีกเช่นกัน เราเร่งจัดสร้างอัฒจันทร์ด้านหลังประตู ฝั่งใกล้ที่จอดรถ คาดว่าจะแล้วเสร็จทัน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคงจะไปหาอัฒจันทร์ชั่วคราวมารองรับเพราะฐานล่างตอนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะทำให้เพิ่มความจุได้อีก 5,000 คน รวมแล้วสนามธันเดอร์โดมน่าจะรองรับแฟนบอลได้ 15,000 คน
ข้อมูล www.komchadluek.net

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

มือขวาเผย รีดมาแน่ แต่ไม่รู้วันไหน


สตีฟ ดาร์บี้ เผย ปีเตอร์ รีด ยืนยันกลับมาคุมทีมชาติไทยแน่ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ขณะที่ แฟนบอลชาว กดดันสมาคมให้ไล่กุนซือชาวผู้ดี และดึงโค้ชคนใหม่เข้ามาแทน วันนี้ (7 ก.ย.) จากกรณีปัญหาคาราคาซังของกุนซือ ปีเตอร์ รีด ที่ตอนแรกทำท่าจะอำลาเก้าอี้กุนซือทีมชาติไทยกลับไปรับงานที่สโมสรสโต๊ก ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่หลังจากได้จับเข่าคุยกับนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายวรวีร์ มะกูดี ก็ยืนยันว่าจะกลับมาคุมทีมชาติไทยสู้ศึกเอเชี่ยนคัพเหมือนเดิม ก่อนที่ข่าวคราวจะเงียบหายไป และถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าโค้ชรีดจะบินกลับมาไทยเมื่อใดกันแน่ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก สตีฟ ดาร์บี้ กุนซือทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ และเป็นผู้ช่วยฯ มือขวาของ ปีเตอร์ รีด ในทีมชาติชุดใหญ่ว่า เพิ่งได้รับการติดต่อจากทาง ปีเตอร์ รีด ซึ่งยังอยู่ที่อังกฤษว่า รีดจะบินกลับมาคุมทีมชาติไทยเหมือนเดิมอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้แจ้งกำหนดการเดินทางว่าจะมาวันไหน ตอนนี้ให้ตนทำหน้าที่ดูฟอร์มของนักเตะในไทยพรีเมียร์ลีกไปก่อน ขณะเดียวกันในส่วนกระแสของแฟนบอลชาวไทยที่มีต่อ ปีเตอร์ รีด ในเวบไซต์ต่างๆ ก็ยังคงขุ่นเคือง และโจมตีกุนซือชาวอังกฤษอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่อยากให้สมาคมฟุตบอลฯ ประกาศปลดรีดออกจากตำแหน่งไปเลยเพราะไม่มี ความรับผิดชอบแล้ว ให้นายกวรวีร์เร่งหาเฮดโค้ชคนใหม่เข้ามาคุมทีมไทยโดยด่วน เพราะมีภารกิจใหญ่รออยู่ทั้งในเอเชี่ยนคัพ รอบคัดเลือกและกีฬาซีเกมส์ที่ลาว
ข้อมูล www.thairath.co.th

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

กิเลนบดกระต่าย 1-0 หนีฉลามที่ได้แค่เจ๊า 3 แต้ม


เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด เบียด บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมร่วมกลุ่มนำของศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เข้าป้าย 1-0 จากประตูชัยของ ธีรศิลป์ แดงดา ทำแต้มทิ้งห่าง ชลบุรี เอฟซี ที่ออกไปเสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 เพิ่มเป็น 3 คะแนน ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552 เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด 1–0 บางกอกกล๊าส เอฟซี บิ๊กแมตช์ที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ไทยลีก เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด เปิดสนามธันเดอร์โดมต้อนรับ บางกอกกล๊าส เอฟซี นัดนี้เจ้าบ้านขาด ซูมาโฮโร ยายา ปีกตัวจี๊ดที่ติดโทษแบน แต่ได้ ธีรศิลป์ แดงดา กลับมายืนหัวหอกคู่กับ ธีรเทพ วิโนทัย ด้านอาคันตุกะพัก อาจายี ซามูเอล กองหน้าจอมเลื้อยไว้แล้วให้ ชาตรี ฉิมทะเล ลงเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ส่วนขุมกำลังที่เหลือค่อนข้างฟูลทีม เปิดฉากมาได้เพียง 4 นาที “กิเลนผยอง” สร้างความหวาดเสียวก่อน เมื่อ ธีรศิลป์ ได้โหม่งที่เสาสองจากจังหวะเตะมุมทางขวา แต่ พลวัฒน์ วังฆะฮาด ที่ยืนคุมเส้นเคลียร์ทิ้งออกมาอย่างหวุดหวิด จากนั้นนาทีที่ 9 สาวกเมืองทองฯ ได้เฮกันลั่น เมื่อ ธีรศิลป์ โฉบเข้าชาร์จลูกเปิดจากด้านขวาในกรอบ 6 หลา ตัดหน้า กฤษณะ กลั่นกลิ่น นายด่านทีมเยือนตุงตาข่ายเป็น 1-0 เจ้าถิ่นเริ่มได้ใจบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 12 ดานโก เซียกา ลองสับไกนอกเขตโทษหลุดออกทางเสาแรก 4 นาทีให้หลังเป็นทีของ “กระต่ายแก้ว” โดย อนาวิน จูจีน ครอสบอลจากริมเส้นฝั่งขวา ชาตรี ฉิมทะเล โฉบเข้ามาโขกตรงกลางประตูข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ ศรัณย์ พรมแก้ว จะลองกดหน้าเขตโทษบ้างในนาทีที่ 20 ทว่า กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูกิเลนล้มตัวปัดได้ทัน รูปเกมเริ่มเข้มข้นขึ้น นาทีที่ 21 พลวัฒน์ รับใบเหลืองแรกจากการยกเท้าสูงใส่ มุสซา ซิลลา จากนั้น เจษฎา จิตสวัสดิ์ ก็โดนจดชื่อบ้างใน 7 นาทีให้หลังเมื่อกระแทก ชาตรี ล้มหน้าเขตโทษ ก่อนที่ ศุภชัย คมศิลป์ จะปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงทำท่าจะเบียดเสา แต่ กวิน พุ่งสุดตัวปัดเอาไว้ได้ เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม บางกอกกล๊าส เปลี่ยนตัวแก้เกมด้วยการส่ง สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ลงไปแทน ศรัณย์ ถัดมานาทีที่ 34 อนาวิน ตะบันไกลข้ามคาน หลังถูกกดดันอยู่นาน กิเลนก็ขึ้นมาคุกคามบ้าง นาทีที่ 38 ธีรศิลป์ ตักเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ธีรเทพ จับบอลลงแล้วหวดด้วยซ้ายเข้าข้างตาข่าย กระทั่งจบ 45 นาทีแรก เมืองทองฯ ยังคงนำอยู่ 1-0 กลับมาเล่นครึ่งหลังได้เพียง 2 นาทีเศษ ผู้ตัดสิน อรรถกร เวชการ มีอาการนิ้วซ้นต้องปฐมพยาบาลจนเกมหยุดพักราว 4 นาที ถัดมานาทีที่ 56 บีจี มีโอกาสลุ้นตีเสมอโดย ชาตรี เปิดจากสุดเส้นหลังด้านขวาให้ ธนัต๔ วงค์ศุภลักษณ์ สอดเข้ามายิงแถวจุดโทษ ทว่าโดนไม่เต็มเท้าลูกข้ามคาน นาทีที่ 62 รุ่งโรจน์ สว่างศรี รับใบเหลืองอีกรายจากการเตะสูงใส่ ซิลลา จนทั้งสองฝ่ายอารมณ์เดือดเข้าหากันแต่ยังห้ามปรามได้ทัน แต่ผู้ตัดสิน อรรถกร มีอาการเจ็บกำเริบจนเกมหยุดอีกเกือบ 4 นาที จากนั้นนาทีที่ 68 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว สบโอกาสลักไก่ล็อบบอลล้นข้ามคานชนิดมีเสียว ถึงนาทีที่ 75 ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เติมถึงเส้นหลังก่อนตบคืนให้ สาลาฮูดิน อาแว เข้ามาแปโด่งข้ามคานไปไกล กระต่ายแก้วทิ้งไพ่ตายด้วยการส่ง นันทวัฒน์ แทนโสภา กองหน้าลงมาแทน โคเน คาสซิม เข้าสู่นาทีที่ 89 กฤษณะ ออกมาหยุดเกม เซียกา นอกเขตโทษถูกจดชื่อไปอีกคน ช่วงทดเจ็บ อาจายี ลุกจากม้านั่งลงมาแทน ธนัตถ์ เพื่อล่าตาข่ายเต็มที่แต่ไม่ทันการณ์ หมดเวลา เมืองทองฯ เฉือนชนะ บางกอกกล๊าส 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนน ทิ้งห่าง ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูงที่เสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 เพิ่มเป็น 3 แต้ม ส่วนบีจีรั้งอันดับ 3 ตามเดิม มีอยู่ 43 คะแนน รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด – กวิน ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), ปกาศิต แสนสุข, เจษฎา จิตสวัสดิ์ (กัปตันทีม), ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, มุสซา ซิลลา, สาลาฮูดิน อาแว, ดานโก เซียกา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ธีรเทพ วิโนทัย, ธีรศิลป์ แดงดา บางกอกกล๊าส เอฟซี – กฤษณะ กลั่นกลิ่น (ผู้รักษาประตู), พลวัฒน์ วังฆะฮาด, อำนาจ แก้วเขียว (กัปตันทีม), รุ่งโรจน์ สว่างศรี, ศุภชัย คมศิลป์, อนนท์ บุญสุโข, ธนัตถ์ วงค์ศุภลักษณ์, อนาวิน จูจีน, โคเน คาสซิม, ศรัณย์ พรมแก้ว, ชาตรี ฉิมทะเล ผลฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน บีอีซี เทโรศาสน ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 3-1 แบงค็อก ยูไนเต็ด เสมอ ชลบุรี เอฟซี 1-1 เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0 ราชนาวี ระยอง เสมอ จุฬา ยูไนเต็ด 1-1


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

ศึกทวงแค้น!กิเลนดวลเดือดแรบบิต


บิ๊กแมตช์วัดแชมป์ เมืองทอง ยูไนเต็ด รับ บางกอกกล๊าส เอฟซี สยามกีฬาทีวี ยิงสดตั้งแต่เวลา 16.30 น. หรือดูผ่านเน็ตได้ที่ http://sstv.siamsport.co.th/live/index.asp ส่วน "ฉลามชล" ชลบุรี บุกเยือน แบงค็อก สทท.11 ยิงสด ฝั่ง บีอีซี เทโรศาสน รับมือ พัทยา ยูไนเต็ด ด้าน ราชนาวี ระยอง เฝ้ารังประกาศยำทีมบ๊วย จุฬาฯ ยูไนเต็ด ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 วันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.นี้

ศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เกมวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.นี้ ยังจะมีลงสนามฟาดแข้งด้วยกัน 4 คู่ ซึ่งเกมบิ๊กแมตช์จะมีขึ้นที่สนามธันเดอร์โดม เมืองทอง ยูไนเต็ด เฝ้ารังรับ บางกอกกล๊าส เอฟซี เวลา17.00 น.คู่นี้สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสดให้ชม ส่วนคู่อื่น บีอีซี เทโรศาสน เล่นที่หนองจอก พบกับ พัทยา ยูไนเต็ด เวลา 16.00 น.ราชนาวี ระยอง เล่นในบ้านพบกับ จุฬา ยูไนเต็ด เวลา 17.00 น. และ แบงค็อก ยูไนเต็ด เล่นที่ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พบกับ ชลบุรี เอฟซี เวลา 16.00 น. ถ่ายทอดสดทาง สทท.11

เมืองทองฉีด7แสนล้างแค้น
คู่บิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลรอคอยจะมีขึ้นที่ธันเดอร์โดม รังเหย้าของ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง ที่สัปดาห์นี้จะต้องเจอคู่ปรับอย่าง "เดอะ แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับที่ 3 ของตาราง ทั้งคู่เจอกันมาในปีนี้ 2 ครั้ง ปรากฎว่า บางกอกกล๊าส เอาชนะ เมืองทอง มาได้ทั้ง 2 นัด คือในลีก เลกแรก 3 พ.ค.บางกอกกล๊าส ชนะ 1-0 ก่อนมาเจอกันในศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอ.คัพ รอบสาม กระต่ายแก้ว ก็ยังชนะมาได้อีก 1-0 เกมนี้ เมืองทอง ที่กำลังลุ้นแชมป์ต้องการล้างแค้นอย่างยิ่ง นอกจากล้างแค้นได้แล้ว ก็ยังจะได้นั่งจ่าฝูงต่อไป ซึ่งทางผู้บริหารทีมประกาศอัดฉีดไว้แล้ว 7 แสนบาท ถ้าแข้งกิเลนสามารถทำได้

"แต๊ก" วิเคราะห์2เกมแพ้เพราะหน้าไม่คม
"โค้ชแต๊ก" อรรถพล บุษปาคม กุนซือใหญ่ของ "กิเลนผยอง" ที่ต้องเสียท่ากับ บางกอกกล๊าส มาถึง 2 เกม เผยถึงสาเหตุที่แพ้มาว่า ในเลกแรกเรายอมรับว่า เกมตรงกลางไม่อาจจะทำอะไร บางกอกกล๊าส ได้ แม้ว่าจะครองบอลได้ แต่จังหวะการเข้าทำจากกลางไปหน้าไม่แม่นยำพอ อีกทั้งกองหน้าในก็ไม่คม ส่วนล่าสุดที่แพ้ตกรอบ เอฟเอ.คัพ ก็เพราะตัวผู้เล่นของเราไม่สมบูรณ์พอ มีการสลับตัวบางตำแหน่งลงสนามด้วย และปัญหาเดิมคือการเข้าทำที่ไม่เด็ดขาด จนมีผลต่อการเสียประตูในที่สุด

โวไม่มีแพ้ปรับเกมรุกหวังชนะให้ได้
กุนซือ เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวถึงเกมที่จะเจอกันเป็นนัดที่ 3 ในฤดูกาลนี้ กับ บางกอกกล๊าส ว่าถือเป็นเกมที่สำคัญอย่างมาก เพราะถ้าเราชนะได้ โอกาสที่จะก้าวไปสู่แชมป์ไทยลีกก็มีสูง ซึ่งเราได้เล่นในบ้านบ้าง เชื่อว่าแฟนบอลจะเป็นตัวสนับสนุนที่ดีของทีม อีกอย่างเราได้ปรับเรื่องเกมรุกให้เด็ดขาดมากขึ้น เพราะจาก 2 นัดเกมรุกเราไม่คม นัดนี้เราซ้อมมาอย่างหนัก ถ้ากองหน้าจบสกอร์ได้มั่นใจทีมถึงชนะได้เลย เหนืออื่นใด เราจะเล่นรัดกุมที่สุด ทั้งเกมรุกและเกมรับ ถ้านักเตะทำได้ เชื่อทีมจะล้างแค้นได้

ยังขาดยาย่าส่งลีซอ,มุ้ยหอกคู่
สำหรับทีม กิเลนผยอง ยังต้องเสียปีกซ้ายตัวทำเกมอย่าง ซูมาโฮโร่ ยาย่า แข้งไอวอรี่ โคสต์ ไปอีกนัด ที่ยังโดนโทษแบน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เสียดายที่ไม่ได้เล่นนัดนี้ แต่ยังเชื่อว่า เพื่อนร่วมทีมทุกคนจะลงไปทำหน้าที่เพื่อคว้าชัยชนะออกมาให้แฟนบอลได้ชื่นใจอย่างแน่นอน
สำหรับเกมรุกของ เมืองทอง ในนัดสำคัญนี้ ได้จัดให้กองหน้าทีมชาติอย่าง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย กับ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ได้ลงสนามคู่กันอีกครั้ง และใส่ สลาฮูดิน อาแว ลงไปทำหน้าที่แทน ยาย่า ตรงแดนกลางสนาม

แร็บบิตใจป้ำฉีดให้5แสน
ด้านทีมเยือน อันดับที่ 3 ของตาราง ถ้าหากบุกมาคว้า 3 แต้มได้จะมีลุ้นคั่วแชมป์ได้เช่นกัน เพราะมีคะแนนตามหลังอยู่เพียง 4 คะแนนเท่านั้น ในเกมนี้ทาง นายศุภสินธ์ ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีม เผยว่า เป็นเกมที่เราจะได้วัดว่าจะกลับมามีลุ้นแชมป์ได้หรือไม่ ยอมรับว่าไม่ง่าย เพราะทีมเพิ่งกลับจากการทำศึกสิงคโปร์มาหมาดๆ อาจจะล้าบ้าง แต่ก็มีการพักตัวหลักเพื่อเล่นในนัดนี้อยู่แล้วด้วย เชื่อเกมจะสนุกเร้าใจตลอด 90 นาทีแน่นอน และทีมก็จะมีโบนัสให้เช่นกัน ถ้าชนะได้เอาไปเลย 5 แสนบาท

"ง้วน"บอกเกมนี้วัดใจนักเตะ
ส่วน "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ กุนซือใหญ่ บางกอกกล๊าส ที่จะยกพลด้วยสภาพทีมที่สมบูรณ์สุดๆ มาเยือน เมืองทอง กล่าวว่า เป็นเกมที่สำคัญถ้าเรายังจะลุ้นแชมป์ได้อยู่ ก็ต้องผ่านเกมนี้ได้ แม้สภาพทีมจะล้าบ้างจากศึกสิงคโปร์ คัพ ก็ถือเป็นการวัดใจนักเตะของเราด้วยว่าจะแกร่งขนาดไหน เพราะเกมนี้หนักแน่นอน โชคดีที่ไม่มีใครแบน หรือเจ็บ โดยจะใช้ชุดเดิมลงสู้อีกครั้ง ซึ่งกับเตะทุกคนก็รู้ทางกันดีอยู่แล้ว เราไม่ได้มองว่าจะต้องบุกมาชนะอะไร ขอเพียงสู้ได้สนุก มีแต้มกลับออกไปก็น่าพอใจแล้ว แต่ถ้าโชคดีชนะได้อีกก็จะยิ่งดีใหญ่ เพราะหมายถึงว่าเรายังจะได้ขึ้นไปลุ้นแชมป์ด้วยอีกทีม

11นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามทั้งสองทีม
เมืองทอง ยูไนเต็ด (4-4-2) -ประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ เซนเตอร์ ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์,เจษฎา จิตสวัสดิ์ แบ็กซ้าย ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แบ็กขวา ปกาศิต แสนสุข กองกลาง ซีล่า มูซ่า,แดนโก้ เซียก้า,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,สลาฮูดิน อาแว กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา,ธีรเทพ วิโนทัย
บางกอกกล๊าส เอฟซี (4-4-2) - ประตู กฤษณะ กลั่นกลิ่น เซนเตอร์ รุ่งโรจน์ สว่างศรี,อำนาจ แก้วเขียว แบ็กซ้าย ศุภชัย คมศิลป์ แบ็กขวา พลวัฒน์ วังฆะฮาด กองกลาง อนนท์ บุญสุโข, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์, อนาวิน จูจีน,โคเน่ คาสซิม กองหน้า อจายี่,ชาตรี ฉิมทะเล

ใช้หน่วยปราบจราจลดูแล
ส่วนการรักษาความปลอดภัยในเกมสำคัญนี้ที่คาดว่าจะมีแฟนบอลเข้าชมกันล้นสนาม ทางเจ้าบ้านอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประสานกับสมาคมฟุตบอลฯ โดย “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแล โดยเกมนี้จะใช้หน่วยปราบจราจลมายืนคุมทุกจุดทั่วสนามจำนวน 45 นาย รวมกับตำรวจท้องที่ และรปภ.สนามก็เกือบ 100 นาย ทั้งนี้จะถือเป็นเกมแรกที่จะใช้หน่วยปราบจราจล ซึ่งจะเข้ามายืนคุมแฟนบอลอย่างเดียว และถือเป็นมาตรฐานสากลเหมือนกับลีกในต่างประเทศ

เทโรฯโวชนะ6นัดรวด
ที่สนามหนองจอก เจ้าบ้าน บีอีซี เทโรศาสน ที่ทำผลงานชนะมา 5 นัดรวด จนอันดับพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 5 ของตาราง และยังถือว่ามีหวังเล็กๆ ในการลุ้นแชมป์ เกมนี้จะเปิดบ้านพบ พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 8 ที่มี 26 แต้ม ซึ่งคู่นี้ในเลกแรกเสมอกันมา 0-0 โดยก่อนลงสนามนัดนี้ปรากฎว่า “โค้ชแบน” ตะวัน ศรีปาน ได้ล้มป่วยเป็นไข้เลือดออก และนอนซมอยู่โรงพยาบาลเมื่อวันอังคารและพุธที่ผ่านมา แต่ก็สามารถกลับมาคุมทีมได้แล้ว โดยกล่าวว่า ทีมพัทยา มีลูกอันตรายจากการตั้งเตะเท่านั้น รูปเกมไม่น่ากลัว ได้เตรียมการวางแผนมารับมืออย่างดีแล้ว ซึ่งเราเล่นในบ้านด้วยยังไงขอเน้น 3 แต้ม และขอชนะเป็นเกมที่ 6 ติดต่อกันให้ได้

พัทยาหยันเทโรฯยังไม่เจอทีมแกร่ง
ส่วนทีมเยือนอย่าง "โลมาฟ้า-ขาว" พัทยา ยูไนเต็ด เกมนี้จะขาด ทศพล การปลูก เพียงคนเดียว ส่วน นริศ ทวีกุล ประตูมือหนึ่ง ไม่สมบูรณ์ต้องนั่งพัก จเด็ด มีลาภ เผยถึงเกมนี้ว่า เทโรฯ แม้ชนะมา 5 นัดรวดแต่ยังไม่ได้เจอทีมแกร่งเท่าไหร่ ซึ่งจะไม่ยอมให้ เทโรฯ ผ่านเราง่ายๆ แน่ แม้ทีมจะร่วง เอฟเอ คัพ มา ก็ไม่ได้เสียขวัญกำลังใจอะไร ยังพร้อมสู้ โดยจะต้องระวัง กิตติพล ปาภูงา ตัวทำเกมของ เทโรฯ คนเดียวเท่านั้น ถ้าหยุดได้ เกมเขาก็ไม่อันตราย นัดนี้ตั้งเป้าไม่แพ้ ได้ 3 แต้ม หรือ 1 แต้มก็พอใจแล้ว เพราะถือว่าอันดับเราก็ยังไม่ปลอดภัย ยังต้องเต็มที่

11นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามทั้งสองทีม
บีอีซี เทโรศาสน (4-4-2) ประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เซนเตอร์ ธฤติ โนนศรีชัย,ทัศนา แช่มสะอาด แบ็กซ้าย นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กขวา กีร์ ฮูเบิร์ต กองกลาง อคาซู,จักรพันธ์ แก้วพรหม,กิตติพล ปาภูงา,ชาคริต บัวทอง กองหน้า วุฒิชัย ทาทอง,อานนท์ สังสระน้อย
พัทยา ยูไนเต็ด (4-4-2) ประตู ประสิทธิ์ โคตรมหา เซนเตอร์ ไพศาล โพธิ์นา,สมภพ นิลวงษ์ แบ็กซ้าย สันติ ไชยเผือก แบ็กขวา ซีเกต หมาดปูเต๊ะ กองกลาง อิทธิพล พูลทรัพย์,อัทนาเซ่,อมร ธรรมนาม,วิลเลี่ยม กองหน้า รังสันต์ รูปเหมาะ,แอนเดอร์สัน มาเชโด้

ราชนาวีบอกไม่น่าพลาด3แต้ม
ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง เจ้าบ้าน ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับที่ 12 มี 23 แต้ม เกมนี้จะเฝ้ารังอีกนัดพบกับทีมบ๊วยอย่าง “เสือสามย่าน” จุฬา ยูไนเต็ด ซึ่งในเลกแรกเสมอกันมา 1-1 เกมนี้เจ้าบ้านต้องขาดตัวทำเกมอย่าง ใหญ่ นิลวงษ์ ไปรายเดียว และ ติณภพ ศรีสถิตย์ ที่เจ็บลงสนามไม่ได้ “โค้ชแฟร้งค์” สุขสันต์ คุณสุทธิ์ กุนซือใหญ่ของราชนาวี ระยอง เผยว่า เป็นเกมที่เราคาดหวังกับ 3 แต้มพอสมควร เพราะอยู่ระดับเดียวกัน ถ้าชนะได้ ก็จะโล่งขึ้นมากในการหนีตกชั้น แต่ยังไงก็เหนื่อย จุฬาฯ ต้องมาเต็มที่แน่ พวกเขาไม่มีอะไรเสีย ก็อยู่ที่เราเองว่าจะทำได้ดีแค่ไหน แต่ที่ผ่านมา ทุกคนเล่นในบ้านมุ่งมั่นสูงมาก เรายังเชื่อว่าแฟนบอลจะมีส่วนกระตุ้นให้พวกเขาเอาชนะ จุฬาฯ ในเกมนี้ได้แน่นอน

จุฬาฯลั่นมาสู้เต็มสูบ
ทีมเยือน "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด ที่ยังไม่ชนะใครในเลกสอง เยือนเกมนี้ขาด 2 ตัวหลักอย่าง วัฒนศัพท์ เจริญศรี กับ วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ ที่ถือว่าเป็นตัวสำคัญอย่างมาก และเกมนี้ถ้าแพ้อีกก็จะยิ่งแย่กันไปใหญ่ "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือของทีม กล่าวว่า เราไม่มีทางเลือกนอกจากสู้เต็มที่ต่อไป และทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมา เกมเราดีขึ้นมาก แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นผู้ชนะ ก็ต้องทุ่มเทกันต่อไปให้ถึงที่สุดแม้ว่าจะเป็นรองก็ตาม

11นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามทั้งสองทีม
ราชนาวี ระยอง (4-4-2) สิทธิพงศ์ มะนาวหวาน เซนเตอร์ ยานนิค,สุรเดช เสาไธสง แบ็กซ้าย เจษฎา งามเมือง แบ็กขวา ศรายุทธ จอมคำสิงห์ กองกลาง สุทธินันท์ นนที,อดัม,ศุภชัย ขำทรัพย์,มารุตน์ ดอกมะลิป่า กองหน้า สมเจตน์ สัตบุษ,รัฐพร แซ่ตั๋น
จุฬา ยูไนเต็ด (4-3-3) ประตู ยีนส์ มาร์ค เซนเตอร์ อภิวัฒน์ งั่วลำหิน,ศักดา ชุติภัคพงศ์ แบ็กซ้าย อดุลย์ หมื่นสมาน แบ็กขวา ประสิทธิ์ เทาดี กองกลาง ชานนท์ วงษ์อารีย์,เนโต้,เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ กองหน้า สมปอง สอเหลบ,ไพฑูรย์ นนทะดี,กิตติภูมิ ปาภูงา

"แข้งเทพ"อาสาล้มฉลามชล
"แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเปิดรังไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เจอศึกหนักกับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ซึ่งในเลกแรกโดนถล่มมา 1-5 เกมนี้เจ้าบ้านขาด วิทยา หมัดหลำ กองกลางไป แต่ได้ นพพล ผลอุดม กลับมายืนหัวหอก ซึ่ง สมชาย ทรัพย์เพิ่ม กุนซือของทีม กล่าวว่า เป็นรอง แต่ช่วงหลังเราเสมอกับแพ้บ่อย ยังไงก็ต้องเต็มที่ และขออาสาที่จะล้มชลบุรี ทีมใหญ่ให้ได้ ซึ่งทุกคนก็พร้อมสู้เต็มที่ ถ้าทำได้ทีมก็คงจะไม่ต้องเหนื่อยมาลุ้นตกชั้นอีก

"ซิโก้"กำชับต้องไม่ประมาท
ทีมเยือน "ฉลามชล" ที่ลุ้นแชมป์ในเวลานี้ เกมนี้ยังขาดกองหน้าดาวยิง โคเน่ โมฮัมเหม็ด เช่นเดิม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กล่าวถึงความมั่นใจว่า สภาพทีมกำลังลงตัว นักเตะเล่นด้วยความมั่นใจ ส่วนตัวยังมั่นใจว่าทีมน่าจะบุกมาคว้า 3 แต้มได้ แต่ยังไงก็แล้วแต่เราประมาทไม่ได้ ในเลกแรกแม้ว่าจะชนะมาขาดลอย แต่เกมนั้นสูสีกันตลอด ก่อนที่เราจะมาทำได้ในช่วงท้าย นัดนี้ก็เช่นกัน แบงค็อก เป็นทีมที่เล่นเหนียว ยากที่จะเจาะ ฉะนั้นเราจะเน้นเกมรัดกุม ไม่ผลีผลาม และดูเชิง ดูจังหวะเป็นหลัก ขอแค่จบสกอร์ได้ก็น่าจะคว้าชัยกลับไปได้

11นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามทั้งสองทีม
แบงค็อก ยูไนเต็ด (4-4-2) ประตู วีระ เกิดพุดซา เซนเตอร์ ปรีชา ชาวกล้า,ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ แบ็กขวา ทรงศักดิ์ เฮมเขียว แบ็กซ้าย จิรนัฐ นนทะเกษ กองกลาง รามเทพ ชัยแป้น,เชดอาบิต,กิตติศักดิ์ ศิริแว่น,ศุภเสกข์ ไก่แก้ว กองหน้า ไกรสร ปั้นเจริญ,นพพล ผลอุดม
ชลบุรี เอฟซี (4-4-2) ประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล เซนเตอร์ เกียรติประวุฒิ สายแวว,ชลทิตย์ จันทคาม แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ กองกลาง อดุลย์ หละโสะ,ภานุวัฒน์ จินตะ,อาทิตย์ สุนทรพิธ,เอกพันธ์ อินทเสน กองหน้า พิภพ อ่อนโม้,ไมเคิ่ล เบิร์น


ข้อมูล http://www.siamsport.com/

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

ไทยลีกฮือฮานครปฐม ได้ "เดอะตุ๊ก"คุมทีม สมุทรสาครเตรียมฟ้องล้มบอล


คมชัดลึก :ไทยลีกฮือฮา "เจดีย์ใหญ่" นครปฐม ได้ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน รับบทกุนซือใหญ่ พาทีมหนีตาย 8 นัดสุดท้าย ส่วนกรณีแฉล้มบอล "สำเภามหาชัย" ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร เตรียมตั้งทนายฟ้อง กิจ มีศรีสุข ฐานหมิ่นประมาท ด้านบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กระเป๋าฉีกไร้เงินถ่ายทอดสด 5 นัดที่เหลือ โร่หา กกท.ของบ 2 ล้าน พร้อมคลอดคู่ยิงสดแล้ว ขณะที่การท่าเรือไทยติดรูป 4 อันธพาลห้ามเข้าสนามตลอดฤดูกาล ส่วนเกมนัดที่ 23 ของฤดูกาล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไร้ 2 ตัวหลักเล่นเกมหนีพื้นที่สีแดงกับนครปฐม

การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 5 กันยายนนี้ ดวลแข้งกันเป็นนัดที่ 23 ของฤดูกาล มีเตะทั้งหมด 4 คู่ ที่สนามธันเดอร์โดม “ฮัลโหล” ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 พบ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 6 เวลา 17.00 น. เจ้าถิ่นต้องขาด 2 ตัวเก่ง สุเชาว์ นุชนุ่ม และเคลาดิโอ ดาเนียล ปาสกาล ที่ติดโทษแบน ส่วนการท่าเรือไทยไม่มี รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ และมูดูรู ซวา มอยซ์ ที่โดนแบนเช่นกัน

สำเภามหาชัย” ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ทีมอันดับ 10 ที่เปลี่ยนโค้ชใหม่ให้ ประจักษ์ เวียงสงค์ เป็นกุนซือพบ “ห้างขายยา” โอสถสภา เอ็ม-150 ทีมอันดับ 4 ที่สนาม สพล.สมุทรสาคร เวลา 17.00น. เกมนี้เจ้าถิ่นที่เพิ่งผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลสิงคโปร์คัพ ไม่มี ณรงค์ จันทร์เสวก และพีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี ที่โดนแบน ขณะที่โอสถสภายังไม่มี โกศวัต ว่องไวลิขิต กองหลังดาวรุ่งที่เหลือโทษแบนอีก 1 นัด มนุษย์ไฟฟ้า” การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทีมอันดับ 13 ทีมแชมป์เก่าที่ฟอร์มย่ำแย่ต้องทำศึกหนีตกชั้นพบ “เจดีย์ใหญ่” นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 14 ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลา 17.00 น. สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ถ่ายทอดสด นัดนี้เจ้าถิ่นสภาพไม่ปึ้กต้องขาด อภิภู สุนทรพนาเวศ และ อองรี โจเอล คัวคู ที่ติดโทษแบน รวมถึง ณรงค์ชัย วชิรบาล ที่ยังบาดเจ็บ ด้านนครปฐมสภาพสมบูรณ์ไม่มีตัวเจ็บ แต่จะไร้ วุฒิศักดิ์ มณีสุข ที่ติดโทษเป็นเกมสุดท้าย

ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 11 พบ “บลูมาร์ลิน” ศรีราชา เอฟซี ทีมรองบ๊วยที่สนามกีฬาสมุทรสงคราม เวลา 16.00 น. เกมนี้ “ปลาทู” ต้องขาด จิรวัฒน์ แก้วโบราณ นักเตะตัวเก่งที่ติดโทษแบน ส่วนศรีราชาอาการหนักมีผู้เล่นตัวหลักโดนแบนถึง 4 รายทั้ง สุภภรณ์ พรหมพินิจ, อำไพ มุธาพร, สนอง ชัยประโคม และวัชรพงษ์ มากกลาง ด้านเจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ผู้จัดการทีมการท่าเรือไทย เอฟซี กล่าวถึงกรณีมีเหตุวิวาทระหว่างแฟนบอลสิงห์เจ้าท่ากับโอสถสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่าสโมสรได้ตัดสินห้ามแฟนบอล 4 คนเข้าสนาม เนื่องจากมีการสืบสวนและตรวจสอบจากหลักฐานภาพถ่ายแล้วพบว่าเป็นคนก่อปัญหามาตลอด ทีมติดรูปทั้ง 4 คนหน้าสนามเพื่อห้ามเข้า ซึ่งวิธีการนี้อาจมีปัญหาได้รับการต่อต้านจากกลุ่มของ 4 คน แต่ต้องทำเพื่อป้องกันไม่ให้คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ
ส่วนประเด็นการถ่ายทอดสดศึกไทยพรีเมียร์ลีกผ่านฟรีทีวี ที่ยังเหลืออีก 5 แมทช์ ตามสัญญาที่ทำไว้กับ ปตท. สปอนเซอร์ใหญ่จำนวน 10 แมทช์ตลอดฤดูกาล ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง กล่าวว่า เรากังวลกับเรื่องนี้มากเพราะอาจถูก ปตท.ฟ้องได้หากไม่ทำตามสัญญา แม้ตอนนี้จะเบาใจไปบ้างที่ สทท.11 ไฟเขียวเวลาถ่ายทอดสดให้แล้วทั้ง 5 แมทช์ที่เหลือ แต่มีปัญหาคือหาสปอนเซอร์ไม่ได้เพราะภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ดังนั้นจึงต้องไปขอรับการสนับสนุนจาก กกท.จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมค่าเวลาที่คิดนัดละ 4 แสนบาท ซึ่งเวลานี้ไม่ทราบว่าจะได้ตามที่ขอหรือไม่ แต่อย่างไรต้องถ่ายทอดสดให้ได้ ซึ่งถ้าไม่ได้มาปีนี้ไทยลีกส่อขาดทุนค่อนข้างแน่ นอกจากนี้จากประเด็นที่ "คม ชัด ลึก" เสนอข่าว กิจ มีศรีสุข อดีตกุนซือใหญ่ "สำเภามหาชัย" ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ออกมาแฉว่ามีนักเตะในทีมเล่นผิดวิสัยจนชวนให้สงสัยว่าล้มบอล ล่าสุด "บิ๊กน้อย" อนุชา กระเดื่องเดช ผู้จัดการทีม กล่าวว่า ได้จัดเตรียมทนายความและรวบรวมข้อมูลเพื่อฟ้องกิจในฐานหมื่นประมาท เพราะที่ผ่านมาการจัดตัวลงสนามเป็นการตัดสินใจของกิจเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขณะเดียวกัน "เจดีย์ใหญ่" นครปฐม ที่หลังจากวืด "น้าชัช" ชัชชัย พหลแพทย์ ไปคุมทีม ปรากฏว่า ล่าสุดมีกระแสออกมาว่าได้ทาบทามให้ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่เป็นพิธีกรประจำสนามให้นครปฐมในเกมที่เล่นเป็นเจ้าบ้าน ขยับขึ้นมารับหน้าที่กุนซือใหญ่เพื่อพาทีมหนีตายในช่วง 8 นัดสุดท้าย อย่างไรก็ตามรายงานข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทีมต้นสังกัดแต่อย่างใด


ข้อมูล http://www.komchadluek.net/

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

"ท่าเรือ" ต่อความจุ 1,000 ที่-เพิ่มคุมเข้มแฟนบอล


เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ผู้อำนวยการสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี เผยว่ากำลังเร่งต่อเติมสนามแพท สเตเดียม อีก 1,000 ที่นั่ง คาดพร้อมใช้งานในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 สัปดาห์หน้า พร้อมทั้งยืนยันว่าเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกรูปแบบไว้รองรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากกองเชียร์กระทบกระทั่งกัน “สิงห์เจ้าท่า” ทีมอันดับ 6 ของตารางศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ที่ถือว่าได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในฤดูกาลนี้ เปิดเผยถึงแผนการเพิ่มความจุสังเวียนเหย้า ซึ่งจากเดิมรองรับแฟนบอลได้สูงสุด 5,000 ที่นั่งจะขยับขึ้นไปเป็น 6,000 ที่นั่งในเบื้องต้น โดยเวลานี้เริ่มลงมือไปแล้วในส่วนของอัฒจันทร์หลังประตูฝั่งตึกล็อกซ์เลย์ ซึ่งแต่เดิมมีที่นั่ง 5 แถวก็จะเพิ่มเป็น 8 แถว ด้าน เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ผู้อำนวยการสโมสรการท่าเรือไทยกล่าวว่า “ช่วงนี้เราออกไปแข่งนอกบ้าน 2 นัดติดต่อกันทำให้มีเวลาในการปรับปรุงสนาม ซึ่งไม่เพียงแต่จะต่อเติมอัฒจันทร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางระบบสายไฟใหม่มาฝังในท่อใต้ดินและมีการทำห้องผู้ตัดสินใหม่ด้วย ส่วนงบประมาณในการปรับปรุงสนามนับตั้งแต่ที่ลงมือครั้งแรกรวมกับหนนี้ก็ใช้ไปแล้วประมาณ 3-4 ล้านบาท” ผอ.สิงห์เจ้าท่า อธิบายต่อว่า “เรื่องการเดินทางเข้าสนามในช่วงนี้อาจติดขัดอยู่บ้าง แต่ท่านประธานสโมสร พิเชฐ มั่นคง ก็ติดต่อประสานงานกับทาง ล็อกซ์เลย์ ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับเราแล้วว่าจะขอใช้พื้นที่ของเขาเป็นที่จอดรถของแฟนบอลในวันแข่งขันและทำทางที่จะสามารถเข้าออกได้สะดวกด้วย คาดว่าอัฒจันทร์จะพร้อมใช้งานในเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่จะพบ เพื่อนตำรวจ ในวันที่ 9 กันยายนนี้ และทุกอย่างจะเรียบร้อยในเกมที่ต้อนรับ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร วันที่ 13 กันยายน” เมื่อสนามรองรับแฟนบอลได้มากขึ้นย่อมหนีไม่พ้นเรื่องการเผชิญหน้ากันระหว่างแฟนบอลที่อาจจะตามมา โดยก่อนหน้านี้ก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายหลังเกมพบ โอสถสภา เอ็ม-150 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจษฎาภรณ์ เผยว่าสโมสรเตรียมมาตรการไว้แล้ว “เรื่องการรักษาความปลอดภัยนับจากนี้ไปจะเพิ่มกำลังตำรวจ และ รปภ.เป็น 40 คนต่อนัด เพื่อลดสัดส่วนการคุมพื้นที่ให้เหลือไม่เกิน 200 คนต่อเจ้าหน้าที่ 1 นาย แต่หากเป็นเกมใหญ่ก็จะประเมินสถานการณ์เพื่อเสริมกำลังทหารเข้ามาควบคุมอีก” “สำหรับการขายบัตรเข้าชมช่วงนี้เราก็เริ่มจำกัดยอดต่อ 1 นัดประมาณ 4,500 ใบ และเปิดให้จองล่วงหน้าผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย หากถึงยอดที่กำหนดไว้ก็จะหยุดการจำหน่ายบัตรทันที ซึ่งสามารถลดปัญหาแฟนบอลล้นทะลักได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ เราจะแบ่งโซนกองเชียร์ทีมเยือนออกจากทีมเหย้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงประสานงานกับหัวหน้าแฟนคลับที่ได้ไปประชุมกับบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่าจะพยายามควบคุมให้กองเชียร์เชียร์ด้วยความสุภาพมากกว่านี้” ผอ.การท่าเรือไทย ร่ายยาว
ข้อมูล www.manager.co.th

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ชม "ซิโก้" ออกโฆษณาชุด "ทำไมเรารักพระเจ้าอยู่หัว"

ชมภาพยนตร์โฆษณาชุด “ทำไมเรารักพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่ง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือหนุ่มของ ชลบุรี เอฟซี สโมสรชั้นนำแห่งศึกไทยพรีเมียร์ลีกมาร่วมพูดถึงความประทับใจในฐานะพสกนิกรชาวไทยที่อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยโฆษณาชุดนี้อดีตหัวหอกจอมตีลังกาทีมชาติไทยได้มาออกร่วมกับบุคคลในหลากหลายสาขาอาชีพ ทั้ง พนักงานบริษัท, นักศึกษาแพทย์, ผู้ป่วยสูงอายุ รวมถึง ศ.ดร.ระพี สาคริก อดีตอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์, อดุล จันทรศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ปี 2551, ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้กำกับภาพยนตร์, “ครูอ้วน” มณีนุช เสมรสุต ครูสอนร้องเพลง ตลอดจนเหล่าดารานักร้องอย่าง “ท็อป” ดารณีนุช โพธิปิติ, เจสัน ยัง และ “กระแต โฟร์ทีน” นิภาพร แปงอ้วน

"ปลาทู" เผยคุยสปอนเซอร์ใหม่-ขอปักหลักแม่กลอง


สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมโซนล่างตารางของศึกไทยพรีเมียร์ลีก เผยว่ามีการติดต่อกับผู้สนับสนุนหลักรายใหม่อยู่ 2-3 เจ้า พร้อมยืนยันเงื่อนไขว่าสปอนเซอร์ที่จะเข้ามาต้องให้ยึดฐานที่มั่นในเมืองแม่กลองเท่านั้น สืบเนื่องจากสัปดาห์ก่อน “ปลาทูคะนอง” มีข่าวออกมาว่าบอร์ดบริหารเกือบ 20 รายพร้อมใจกันยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นคณะกรรมการบริหารสโมสร รวมถึง อาร์เอส ยื่นมือเข้ามาขอเทคโอเวอร์แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ เนื่องจากทีมเมืองแม่กลองไม่ยอมรับข้อเสนอย้ายสนามเหย้าไปที่จังหวัดนครราชสีมา และให้เปลี่ยนชื่อสโมสร ล่าสุด สมชาย ตันประเสริฐ รองประธานสโมสรสมุทรสงครามออกมาพูดถึงเรื่องต่างๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เรื่องการขอลาออกของบอร์ดบริหารเป็นเพียงแค่เปิดทางให้กับบุคคลอื่นที่มีความสามารถเข้ามาทำงานแทนคุณสมศักดิ์ ศิริธรรม (ประธานสโมสรคนปัจจุบัน และนายกสมาคมฟุตบอลแม่กลองสมุทรสงคราม) ที่จะปฏิบัติหน้าที่จนจบฤดูกาลนี้เท่านั้น แต่ยังต้องดูการตัดสินใจของคณะกรรมการกีฬาจังหวัดด้วย” ขณะเดียวกัน สมชาย ตันประเสริฐ ที่รั้งตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมด้วยเปิดเผยถึงสถานการณ์ของทีมในอนาคตว่า “เราคงไม่ยอมให้มีการเทคโอเวอร์เกิดขึ้นแน่ นอกเสียจากว่าจะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ให้กับทีมโดยยังใช้ชื่อสโมสรสมุทรสงคราม เอฟซี และเตะนัดเหย้าที่จังหวัดสมุทรสงครามเหมือนเดิม ซึ่งก็ได้คุยกับสปอนเซอร์บ้างแล้ว 2-3 ราย แต่เพิ่งติดต่อกันในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนคนในจังหวัดยังไม่มีใครเสนอตัวเข้ามา” ผู้บริหารทีมปลาทูคะนอง กล่าวปิดท้ายด้วยความมุ่งมั่นในการทำทีมต่อไปว่า “ผมยืนยันว่ายังสู้อยู่ เพราะถึงอย่างไร อบจ.สมุทรสงครามได้ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนแล้วว่าจะให้ความช่วยเหลือทีมฟุตบอลทีมนี้อย่างแน่นอน” ด้าน สมชาย ชวยบุญชุม หัวหน้าผู้ฝึกสอนกล่าวเสริมในฐานะคนคุมทีมว่า "สำหรับปีนี้เราขอแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่รอดในไทยพรีเมียร์ลีก เนื่องจากงบประมาณมีจำกัดจำเขี่ยไม่สามารถทำอะไรได้มาก ส่วนปีหน้าเราค่อยมาระดมทุนและวางแผนงานบริหารจัดการสโมสรกันใหม่ ขณะที่ตัวผมเองจะได้อยู่ทำทีมต่อไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเรื่องนี้ยังคาดเดายาก เพราะผลงานตอนนี้ยังรับประกันไม่ได้ว่าจะรอดหรือเปล่า แต่ผมยืนยันว่ายังสู้ขาดใจ"
ข้อมูล www.manager.co.th

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

'โอสถ-ฉลาม' อีกคู่ 'ไฟฟ้า-สำเภา' เอฟเอคัพรอบ 4


สุดซี๊ดศึกลูกหนังเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อทีมดังอย่าง โอสถสภา ต้องเปิดรังสระบุรี ดวลเกือก 'ฉลามชล' ชลบุรี เอฟซี อีกคู่ การไฟฟ้าฯ เปิดบ้านกรุงเก่ารับ 'สำเภาผยอง' ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2552 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการจับสลากประกบคู่ศึกฟุตบอลน็อกเอาท์ เอฟเอ คัพ 2009 รอบที่ 4 ปรากฎว่าทีมใหญ่ต้องมาดวลกันเอง ประกอบด้วย โอสถสภา เอ็ม 150 ต้องเปิดรังสระบุรี ต้อนรับการมาเยือนของ ชลบุรี เอฟซี ในวันที่ 23 กันยายนนี้ ขณะที่ทีม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีคิวเปิดสนามกีฬากลางจังหวัดอยุธยา พบกับ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร สรุปผลการประกบคู่ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 จากการประกาศผ่านทาง www.fat.or.th ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย วันที่ 2 กันยายน 2552 นครราชสีมา พบ พัทยา ยูไนเต็ด ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา เวลา 18.00 น. สุราษฎร์ธานี พบ ขอนแก่น เอฟซี ณ สนามกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา 17.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2552 การท่าเรือไทย เอฟซี พบ เพื่อนตำรวจ ณ สนามการท่าเรือคลองเตย เวลา 17.00 น. ศรีราชา เอฟซี พบ แบงคอก ยูไนเต็ด ณ สนามฟุตบอลสิรินธร เวลา 18.00 น. วันที่ 16 กันยายน 2552 จันทบุรี พบ บีอีซี เทโรศาสน ณ สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี เวลา 16.00 น. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พบ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร ณ สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลา 17.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2552 โอสถสภา เอ็ม 150 พบ ชลบุรี เอฟซี ณ สนามฟุตบอลจังหวัดสระบุรี เวลา 17.00 น. สมาคมกีฬากรุงเก่า พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี ณ สนามนนทบุรี เวลา 15.30 น.
ข้อมูล www.manager.co.th