วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552

“ท่าเรือ” แม่นโทษเฉือน “มังกร” คว้าเอฟเอคัพ


ทัพนักเตะ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี โชว์ความแม่นในการสังหารจุดโทษ พลิกคว่ำ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ พร้อมเงินสด 1 ล้านบาท

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ 2009 ดำเนินมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน อันดับ 4 ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก พบกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของลีกสูงสุดเช่นกัน ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2552

เริ่มครึ่งแรกทีมดังจากทุ่งหนองจอก เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก กระทั่งนาทีที่ 15 ของการแข่งขัน จึงได้ประตูออกนำไปก่อน เมื่อ กิตติพล ปาภูงา กองกลางทีม “มังกรไฟ” เปิดบอลจากด้านซ้ายไปที่เสาสอง บอลลอยมาเข้าทาง วุฒิชัย ทาทอง หัวหอกจอมลีลา ลอยตัวขึ้นโขกบอลพุ่งเข้าประตู ส่งให้ บีอีซี ออกนำไปก่อน 1-0

หลังเสียประตูแรกทีม “สิงห์เจ้าท่า” พยายามเปิดเกมบุกเพื่อเรียกประตูคืน นาทีที่ 22 จีรวัฒน์ มัครมย์ กองกลางจอมยิงไกลของทีมดังจากคลองเตย พยายามปั่นด้วยขวา แต่ก็หลุดกรอบออกไป ทว่า อีก 2 นาทีต่อจากนั้นความพยายามก็เป็นผล เมื่อ จีรวัฒน์ คนเดิมเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาหน้าประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายด่านบีอีซีฯ ปัดบอลมาเข้าทาง เอ็ดวัลโด ศูนย์หน้าชาวบราซิล ที่รูปร่างสูงใหญ่โหม่งเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1

ถัดมานาทีที่ 28 พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ ปั่นโค้งมาหน้าประตูให้ เอ็ดวัลโด ขึ้นโขกอีกครั้ง แต่ ปรัชญ์ สมัคราษฎร กองหลัง มังกรไฟ โหม่งบอลทิ้งออกไปได้ก่อน

ถึงนาทีที่ 38 บีอีซีฯ เริ่มกลับมาคุมเกมได้อีกครั้ง และมาได้โอกาสส่องไกลจาก นพพล ปิตะฝ่าย แบ็กซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ข้ามคานออกไป ถัดมาอีก 1 นาที ชลากร สงวนดี กองกลางมังกรไฟ ได้ซัดหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งตรงกรอบ ทว่า ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ นายทวาร สิงห์เจ้าท่า ยังพุ่งปัดเซฟไว้ได้ หลังจากนั้น ไม่มีทีมใดพังประตูเพิ่มได้ใน 45 นาทีแรก เสมอกันไป 1-1

เข้าสู่ 45 นาทีหลัง ทัพมังกรไฟ ยังคงคุมเกมบุกได้เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่การท่าเรือฯ ยังคงทีเด็ดที่จังหวะส่วนกลับเช่นเดิม เข้าสู่นาทีที่ 65 เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น หลังจาก ธฤติ โนนศรีชัย กองหลัง บีอีซีฯ ไม่พอใจคำตัดสินของเชิ้ตดำ จึงเตะบอลทิ้งออกข้างสนาม ทว่ากลับไปโดน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือท่าเรือ ทำเอาลูกทีมออกไปโวยปราการหลังมังกรไฟ พร้อมรับใบเหลืองเป็นรางวัลไป

นาทีที่ 68 ตะวัน ศรีปาน กุนซือมังกรไฟ แก้เกมด้วยการส่ง ชาคริต บัวทอง ลงมาเล่นแทน ชลากร สงวนดี ที่เริ่มบุกไม่ขึ้น ถัดมาอีก 3 นาที การท่าเรือฯ แก้ลำส่ง โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ อดีตนักเตะเก่าของบีอีซี แทน เกียรติเจริญ เรืองปาน

ล่วงมาถึงนาทีที่ 78 ทัพมังกรไฟ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ อานนท์ สังสระน้อย ดาวซัลโว 18 ประตูไทยลีกฤดูกาลนี้ ได้ซัดประตูในกรอบเขตโทษ แต่กลับซัดบอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น ถัดมาอีก 4 นาที นายด่านท่าเรือ ปัดลูกฟรีคิกมาเข้าทาง นเรศ กาพย์ไกรแก้ว ซัดตูมสวนเข้าไปก็ไม่ตรงกรอบประตู จากนั้นทั้งสองทีมทำประตูเพิ่มไม่ได้ ครบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องมาดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

นาทีที่ 110 พิพัฒน์ ต้นกันยา หัวหอกการท่าเรือ พักบอลหน้ากรอบเขตโทษด้วยอก ก่อนซัดบอลเร็ว ทว่า ศิวรักษ์ นายทวารมังกรไฟยังเซฟได้ ถัดมาอีกเพียง 1 นาที ตะวัน แก้เกมอีกครั้ง ด้วยการถอด อาเรียน อคาซู กองกลางจอมขยันออก แล้วส่ง พิชิต ใจบุญ ลงไปแทน ช่วงท้ายเกมเจ้าท่าถอด อาลีฟ เปาะจิ ออก แล้วส่ง ธีรวุฒิ สันพันธ์ ลงเล่นแทน กระทั่งครบ 120 นาทีของการต่อเวลา ทั้งสองทีมทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นการท่าเรือที่แม่นกว่า สังหารเข้าไปทั้ง 5 คน ขณะที่ทีมมังกรไฟ ธฤติ โนนศรีชัย ซัดเป็นคนสุดท้ายบอลชนคาน ส่งให้ “สิงห์เจ้าท่า” ชนะ บีอีซี เทโรศาสน 5-4 สกอร์รวม 6-5 คว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2009 ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และสิทธิ์เข้าแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี คัพ ในฤดูกาลหน้า ขณะที่ทีม บีอีซีฯ คว้ารองแชมป์รับเงินรางวัลปลอบใจไป 5 แสนบาท

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บีอีซี เทโรศาสน : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), กีร์ ฮูเบิร์ต, ปรัชญ์ สมัคราษฎร, ธฤติ โนนศรีชัย, นพพล ปิตะฝ่าย, ชลากร สงวนดี, กิตติพล ปาภูงา, จักรพันธ์ แก้วพรม , อาเรียน อคาซู, วุฒิชัย ทาทอง และ อานนท์ สังสระน้อย

การท่าเรือไทย เอฟซี : ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ (ผู้รักษาประตู), พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ, มอยส์ซี, มาริโอ ดา ซิลวา, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์, จีรวัฒน์ มัครมย์, อาลีฟ เปาะจิ, เกียรติเจริญ เรืองปาน, เอกชัย สำเร่, พิพัฒน์ ต้นกันยา และ เอ็ดวัลโด


ข้อมูล http://www.manager.co.th/

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ซิโก้โอเคช่วยทีมชาติ,ร็อบสันตื่นเต้นเจอนักเตะ23ต.ค


"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตกลงรับปากสมาคมลูกหนังไทย ช่วยงานเป็นผู้ช่วยทีมชาติไทยแล้ว เบื้องต้นจะทำให้จบ เอเชียน คัพ และ ซีเกมส์ จากนั้นถ้าได้สโมสรคุม ก็สามารถ โบกมือลาได้ โดยทีมชาติไทยทั้งชุดใหญ่ และซีเกมส์ จะเข้ารายงานตัวกันวันที่ 23 ต.ค. นี้ ไบรอัน ร็อบสัน ตื่นเต้นที่จะได้เจอนักเตะ รับเรียนภาษาไทยยาก แต่จะพยายาม ส่วนศึก 4 เส้า "ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป" จะส่งแข้งลงสนามครบทุกคน เพื่อศึกษาแนวทาง และวิธีการเล่น ย้ำจุดยืนฉะลอดช่องต้องชนะรวด


ความเคลื่อนไหวของนักเตะทีมชาติไทย ซึ่งเตรียมเข้ารายงานตัว วันที่ 23 ต.ค. นี้ เพื่อเข้าสู่โปรแกรมสู้ศึก "เอเชียน คัพ 2011" รอบคัดเลือก กลุ่ม อี ที่จะพบกับ สิงคโปร์ วันที่ 14 และ 18 พ.ย. นี้ รวมถึงชุดซีเกมส์ จะเข้ารายงานตัวด้วยที่ รร.ทาวน์ อิน ทาวน์

สำหรับทีมชุดใหญ่จะรายงานตัวเวลา 13.00 น. จากนั้นแข้งซีเกมส์ จะรายงานตัว 13.30 น. เมื่อเช็กอินเรียบร้อยแล้ว จะออกเดินทางไปร่วมถวายพระพรแด่องค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ รพ.ศิริราช พร้อมกัน เสร็จพิธีจะเข้าไปชมเกมการแข่งขันมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2009 นัดชิงชนะเลิศ และจะทำการซ้อมมื้อแรกวันที่ 24 ต.ค. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เวลา 16.00 น. รุ่งขึ้นวันที่ 25 ต.ค. นี้ จะเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต เวลา 13.00 น. ด้วยสายการบินไทย ทีจี 211

โดยฟุตบอล 4 เส้า "ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป 2009" ถือเป็นรายการแรกที่ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือคนใหม่ จะได้คุมทีม ตามโปรแกรมทีมชาติไทยจะเล่นในนาม ไทยแลนด์ 11 วันที่ 27 ต.ค. นี้ พบกับ สโมสรยานาดาร์บอน จาก พม่า ส่วนอีกคู่ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ ฮองอันห์ ยาลาย จาก เวียดนาม ทีมชนะจะเข้าชิงชนะเลิศ และทีมแพ้จะชิงอันดับ 3 ในวันที่ 29 ต.ค. นี้ นอกจากนี้ วันที่ 28 ต.ค. นี้ ทีมชุดใหญ่ จะมีเกมอุ่นแข้งกับชุดซีเกมส์ให้ชมกันด้วย ที่สนามสุระกุล บัตรเข้าชมราคา 100 และ 300 บาท แต่ถ้าซื้อตลอดทัวร์นาเมนต์จะลดครึ่งราคา

กุนซือทีมชาติไทย ไบรอัน ร็อบสัน กล่าวถึง การที่จะได้พบกับนักเตะเป็นครั้งแรกว่า ตื่นเต้นเป็นธรรมดา เพราะถือเป็นการรู้จักอย่างเป็นทางการครั้งแรก และจะได้ร่วมงานกัน ตนยกย่องความสามารถของนักเตะไทยมาตลอด เมื่อได้ศึกษาจาก ดีวีดี ทุกคนมีเทคนิค และการเล่นที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราจะได้ร่วมงานที่ยิ่งใหญ่ในการพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ

"ผมซ้อมเรื่องการออกชื่อของทุกคนให้ถูกต้อง อย่างที่ สตีฟ แนะนำ ให้จำชื่อสั้นๆ จะได้ออกเสียงได้ ส่วนภาษาไทย ผมกำลังเรียนรู้ มันค่อนข้างยาก แต่ยังไงก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะมันจำเป็นเมื่อต้องทำงานร่วมกัน" ร็อบสัน กล่าว

สำหรับศึก 4 เส้าที่ภูเก็ต ที่นับเป็นการคุมทีมครั้งแรกด้วยนั้น กุนซือชาวอังกฤษกล่าวว่า เราเจอกับทีมระดับสโมสร แต่เป็นแชมป์ของแต่ละประเทศไม่อาจประมาทได้ อีกอย่างทีมชาติไทยเพิ่งรวมทีมกัน อาจจะยังไม่พร้อมนัก แต่ตนเชื่อในฝีเท้า และความเป็นอาชีพของทุกคน ว่าจะทำหน้าที่ได้ดี

ส่วนระบบ แท็กติก ตนคงต้องรอเจอกับทุกคนก่อน มันสามารถที่จะเรียนรู้และปรับตัวได้ง่ายถ้าเปิดใจรับ ที่ผ่านมาตนได้เห็นการเล่นของทีมไทยแล้ว ถือว่ายอดเยี่ยม และเล่นได้แข็งแกร่ง ศักยภาพของทุกคนมีอยู่ในตัวเอง ขึ้นกับว่าจะนำมาใช้ได้ดีขนาดไหนยามลงสนาม ซึ่งทั้ง 2 นัด ตนจะผลัดเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้ครบทุกคน ถือเป็นการทดสอบทีมไปในตัว และแน่นอนเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ให้ได้ด้วย

สำหรับเกมนัดแรกที่จะพาทีมไปสู้ศึกคือการเจอสิงคโปร์ นั้น ร็อบสัน ยังคงยืนยันคำเดิมว่า ศึกษารายละเอียดและเกมมาอย่างดีแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือก็จะเน้นไปที่แท็กติกโดยเฉพาะ ซึ่ง 4 เส้าที่ภูเก็ตน่าจะเป็นการทดสอบอะไรได้หลายๆ อย่าง

ด้านความคืบหน้ากรณีดึง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มานั่งเป็นผู้ช่วยในทีมชาติไทย ที่ยังสับสนอยู่ว่ามีการติดสัญญากับที่ไหนไว้หรือไม่ เรื่องนี้อดีตกุนซือ ชลบุรี เอฟซี ออกมาเผยว่า ช่วงเช้าได้พูดคุยกับทางท่าน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้วท่านก็สอบถามว่า เราเซ็นสัญญาไว้ที่ไหนหรือไม่ ยังไงไม่ต้องเกรงใจ สามารถที่จะบอกได้ ตนเองตอบตามความเป็นจริงว่า ณ เวลานี้ไม่ได้เซ็นสัญญาที่ไหน ตัวเองเพิ่งตกงาน และยังว่างอยู่

ข่าวที่ออกมาทางหน้าหนังสือพิมพ์ ยังไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น เมื่อแจ้งท่านนายกฯ อย่างนี้ ท่านก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นขอให้มาช่วยทีมชาติไทยสู้ศึก เอเชียน คัพ และ ซีเกมส์ ก่อน เมื่อจบภารกิจแล้ว หลังจากนั้นถ้าเราเกิดตกลงไปทำทีมไหนก็ไม่ว่ากัน ท่านให้ตัดสินใจได้เต็มที่

ส่วนกรณีที่ว่าโอกาสจะกลับไป เวียดนาม เพื่อคุมทีมฮองอันห์ ยาลาย อีกครั้ง "ซิโก้" เผยว่า การเจรจายังเพียงแค่เริ่มต้น ไม่ได้พูดรายละเอียดกันมากนัก ถือว่ายัง 50-50 อยู่ ยังไงรอ ซีเกมส์ จบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที

ด้านเยาวชนอายุ 19 ปี ทีมชาติไทย ที่จะมีศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รออยู่ระหว่าง 1-11 พ.ย. นี้ เพื่อคัด 2 ทีมเป็นตัวแทนกลุ่มเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ทางทีมได้นำนักเตะจำนวน 25 คน ชุดสุดท้ายเดินทางไปเก็บตัวกันที่ บางกอกกล๊าส จ.ระยอง โดย "เสี่ยเอ๋" วิสิษ กอวรกุล ผจก.ทีมเผยว่า ช่วงท้ายนี้เราจะเน้นเรื่องแท็กติก และเกมการเล่นเป็นหลัก ยังเชื่อว่าทีมชุดนี้ดีที่สุดแล้ว ที่เลือกมา แต่อาจจะมีจุดบกพร่องบ้าง น่าจะแก้ไขได้ทัน

"เราคงต้องวัดกับทาง เวียดนาม และ เกาหลีใต้ ในช่วง 2 นัดสุดท้าย ที่ถือว่าสำคัญมาก จึงอยากเชิญชวนแฟนบอลไปชมและให้กำลังใจกันมากๆ ด้วยเพราะชุดนี้นอกจากหวังเข้ารอบเอเชียแล้ว เรายังหวังที่ไปสู่การชิงแชมป์โลกด้วย โดยเกมกับ เวียดนาม และ เกาหลีใต้ ได้ประสานกับทางช่อง 11 ในการถ่ายทอดสดให้ชมกันด้วย" ผจก.ทีมเยาวชนไทยกล่าว

ทั้งนี้ในวันที่ 24 ต.ค. ทีมเยาวชนไทย จะเดินทางไปอุ่นเครื่องกับรวมไทยลีกที่ จ.สระแก้ว ก่อนกลับ กรุงเทพฯ ในวันที่ 30 พ.ย. และจะเดินทางไปร่วมถวายพระพรในหลวงที่ รพ.ศิริราช ซึ่งทีมเยาวชนไทยจะเปิดสนามนัดแรก 1 พ.ย.พบกับ มาเก๊า, 3 พ.ย. เจอ ลาว, 6 พ.ย. พบ บังกลาเทศ, 8 พ.ย. พบ กับ เวียดนาม และ 11 พ.ย. เจอกับ เกาหลีใต้ เป็นนัดส่งท้าย



ข้อมูล http://www.siamsport.com/

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ร็อบโบ" เผยไทยลีกบรรยากาศสุดยอด ชม 3 นักเตะไทยแจ่ม


ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ชาวอังกฤษ ยอมรับศึกฟุตบอลไทยลีก มีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมและมีผู้เล่นที่มีฝีเท้าดีๆอยู่มากมาย โดยออกมาชื่นชมในฝีเท้าของ 3ผู้เล่นทีมเมืองทองฯเป็นพิเศษ ได้แก่ "โอ๊ต" ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดาและ "แมท"ปิยะชาติ ถามะพันธ์ แบ็กซ้ายจอมบุกของทีม

หลังจากที่ "กัปตันมาร์เวล" ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทย ชาวอังกฤษได้เปิดตัวแถลงข่าวอย่างเป็นทางเข้ารับงานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด ยอดกุนซือวัย 52 ปี ได้มีโอกาสเข้าไปชมเกมศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกที่สนาม ธันเดอร์โดม คู่ระหว่างเมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบกับ บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งผลปรากฏว่า กิเลนผยองเป็นฝ่ายเอาชนะไป 2-0 โดยนั้งชมเกมเคียงข้างสตีฟ ดาร์บี และศรีภรรยา

โดย อดีตกัปตันผีแดง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว MGR Sport ถึงเกมไทยลีก หลังเข้ามาชมแบบติดขอบสนามเป็นครั้งแรกว่า "บรรยากาศที่นี่สุดยอดมาก ผู้ชมเข้ามากันอย่างหนาตาและส่งเสียงเชียร์กันไม่หยุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยชื่นชอบฟุตบอลกันมากแค่ไหน และมีผู้เล่นที่มีความสามารถมากมายทั้ง 2 ทีม แต่สนามวันนี้ดูจะแฉะไปหน่อยซึ่งไม่เหมาะกับการเล่นฟุตบอลเท่าไหร่นัก และผู้เล่นทั้ง2ทีมใช้โอกาสกันเปลืองมากไปทั้งๆที่มีโอกาสงามๆหลายครั้ง"

ข้อมูล http://www.manager.co.th/

"วันนี้ สตีฟ (ดาร์บี)ช่วยแนะนำเรื่องนักเตะไทยให้ผมได้มากทีเดียว เขาจะเป็นผู้บอกผมได้เสมอว่าผู้เล่นในลักษณะที่ผมต้องการชื่อว่าอะไร สไตล์การเล่นแบบไหน ซึ่งวันนี้ผมชอบฟอร์มการเล่นของ ผู้เล่นหมายเลข 6(ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์), 10(ธีรศิลป์ แดงดา)และ11(ปิยะชาติ ถามะพันธ์) ของทีมเหย้าเป็นพิเศษ"

ในส่วนของ "ร็อบโบ" จะประเดิมคุมทีมชาติไทยชุดสู้ศึกเอเชี่ยนคัพ ลงอุ่นแข้งในศึกฟุตบอล 4 เส้า ที่ภูเก็ต ที่ประกอบไปด้วย สโมสร ยานาดาร์บอน,เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, ฮองอันยาลาย แข่งขันระหว่างวันที่ 27-31 ต.ค.นี้ ที่สนามกีฬาสุระกุล จ.ภูเก็ต ก่อนจะมีโปรแกรมสำคัญพาทีมชาติไทยลงเตะกับทีมชาติสิงคโปร์ รอบคัดเลือกที่สนามบิซาน สเตเดียมในวันที่14 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ก่อนจะมาเล่นเลกสองที่ราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 18 พ.ย. เพื่อคว้าสิทธิ์เข้าไปเล่นในศึกเอเชียนคัพรอบสุดท้ายต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

“ร็อบโบ” เซ็น 4 ปีคุมไทย “บังยี” ตั้งเป้าสูงปรี๊ด


ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ จะจรดปากกาเซ็นสัญญาคุมทัพทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ ในช่วงเย็นวันพุธที่ 23 กันยายนนี้ จากนั้นขอเหินฟ้ากลับไปจัดการธุระยังประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว รวมถึงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รับหน้าที่เป็นทูตอยู่

หลังจาก ร็อบสัน อดีตกุนซือ มิดเดิลสโบรช์ และ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เหินฟ้าถึงประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการรับงานคุมทีมชาติต่อจาก ปีเตอร์ รีด ทำให้กองทัพนักข่าวเดินทางไปที่โรงแรมเรดิสัน เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 23 ก.ย.

แต่ทว่าไม่เห็นเงาของ ร็อบสัน ปรากฏเพียง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ออกมายืนยันว่า ร็อบสัน จะเซ็นสัญญาพร้อมเปิดใจในเวลา 6 โมงเย็นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรสทัวร์รองแอนด์บาร์ โรงแรมเพรสซิเด้นท์ พาเลซ สุขุมวิท 11

พร้อมกันนี้ วรวีร์ เปิดเผยอีกว่า ร็อบสัน อดีตกัปตันทีม แมนฯยูไนเต็ด ยุคทศวรรษ 80 จะเซ็นสัญญา 4 ปีคุมทีมชาติไทย แต่ไม่เปิดเผยเรื่องค่าเหนื่อย โดยคาดกันว่าจะไม่ถึง 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 56 ล้านบาท) ต่อปี ตามที่เป็นข่าว อาจจะอยู่ที่ 600,000 ปอนด์ (ประมาณ 33.6 ล้านบาท) ต่อปี

โดย “บิ๊กยี” กล่าวว่า “เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ผมได้ไปพบกับ ร็อบสัน มาแล้ว พร้อมได้พูดคุยในรายละเอียดสัญญากัน โดยจะมีระยะสัญญา 4 ปี ขณะที่เรื่องค่าเหนื่อยคงเปิดเผยไม่ได้ ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้นวางไว้ว่า เป็นวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่งจากนี้จะให้เขากลับอังกฤษ เพื่อจัดการธุระส่วนตัว พร้อมกับแจ้งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทราบถึงเรื่องการตัดสินใจมาร่วมงานกับสมาคมฟุตบอลไทย”

“ส่วนสัญญาดังกล่าวจะมีเงื่อนไขพิเศษหลายประการที่บอกได้ คือ เรื่องที่ระบุว่าจะมีการประเมินผลงานกันทุก 1 ปี หากทั้ง 2 ฝ่ายพอใจก็จะร่วมงานกันต่อ แต่หากไม่เป็นอย่างที่ต้องการก็คงต้องจากกันด้วยดี เรามีประสบการณ์มาแล้ว กับการที่คนไม่มีใจเราคงไปรั้งเขาต่อไปไม่ได้” นายกลูกหนัง กล่าว

ขณะเดียวกับ ประมุขลูกหนังไทยยังเปิดเผยถึงเป้าหมายที่วางไว้ให้ “ร็อบโบ” ด้วยว่า “อันดับแรกตอนนี้ที่เขาต้องทำให้ได้ คือ พาทีมชาติไทยไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 ส่วนเป้าหมายถัดไปต้องนำทีมไปลุยโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นเป้าหมายสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่งเราก็ต้องการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกเช่นกัน”

ข้อมูล www.manager.co.th

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ฟันฉลามสังเวยแฟนบ้า แบนสนามสิรินธรนัดท้าย


คมชัดลึก :ลงดาบฟันชลบุรี หลังเหตุอัปยศแฟนบอลอันธพาลไล่ทำร้ายสื่อมวลชน ห้ามใช้สนามสิรินธรเป็นสนามเหย้า พร้อมสั่งย้ายมาแข่งที่สนามศุภชลาศัยในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ขณะที่ "เดอะเซนต์" อรรณพ สิงห์โตทอง เตรียมทำเรื่องอุทธรณ์ขอจัดที่สนาม สพล.ชลบุรี แบบปิดห้ามแฟนบอลเข้าชมหวังเป็นบรรทัดฐานของลีกในอนาค


เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพประจำสัปดาห์ โดยมี “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย “มร.โอเค” นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง


ซึ่งก่อนการประชุม นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการบริหาร นำหนังสือ และซีดีบันทึกเหตุการณ์ที่แฟนบอลชลบุรี ได้ทำร้ายช่างภาพและเจ้าหน้าที่ของสยามกีฬาทีวี รวมทั้งทำลายรถโอบี มามอบเป็นหลักฐาน เพื่อพิจารณาตามบทบาทในความรับผิดชอบ และหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน


ข้อมูล http://www.komchadluek.net/

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พลิกโผ เทิดศักดิ์-อิศวะ คัมแบ็กติดทีมลุยเอเชี่ยนคัพ


สมาคมฟุบตอลแห่งประเทศไทยได้ทำการประกาศรายชื่อขุนพลทีมชาติไทยออกมา 2 ชุด ทั้งชุดใหญ่สำหรับลุยศึก เอเชี่ยนคัพ และชุดเล็กสำหรับลุยซีเกมส์ในช่วงปลายปีนี้ โดยสิ่งที่ทำให้สื่อมวลชนต้องแปลกใจกันก็คือ 2 มิดฟิลด์ตัวเก๋าอย่าง เทิดศักดิ์ ใจมั่น และ อิศวะ สิงห์ทอง ถูกเรียกกลับมาติดทีมชุดลุยศึก เอเชียนคัพอีกครั้ง หลังจากหลุดจากทีมชาติไปกว่า 2 ปี

หลังจากที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทสไทยได้บรรลุสัญญาว่าจ้าง ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ และทีม “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาเป็นกุนซือใหญ่คนใหม่ของทีมชาติไทยชุดลุยแข้งศึกฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2011 รอบคัดเลือก ที่ไทยมีโปรแกรมดวลแข้งกับ สิงคโปร์ ทั้งแมตช์ เหย้า และ เยือน ในเดือน พ.ย.นี้

ล่าสุดทางเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ นายองอาจ ก่อสินค้า ได้ทำการประกาศรายชื่อขุนพลนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ จำนวน 22 คน ที่จะเตรียมไว้ลุยศึกเอเชี่ยนคัพออกมาแล้ว ปรากฎว่า มีชื่อของ 2 ยอดมิดฟิลด์จอมเก๋าที่หลุดทีมชาติไปนาน ทั้ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่เล่นให้ทีมอาร์มฟอร์ซ ในเอสลีกสิงคโปร์ และ อิศวะ สิงห์ทอง ที่ค้าแข้งอยู่ในลีกเวียดนาม ถูกเรียกเข้ามาติดทีมชุดนี้ด้วย รวมถึง ปีเตอร์ แลง นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิส จากสโมสรชาร์ฟเฮาเซนส์ ก็ถูกเรียกมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง แต่ที่หลายฝ่ายพากันแปลกใจ ก็คือทีมชาติชุดนี้ยังคงไม่มีชื่อของ อำนาจ แก้วเขียว ปราการหลังกัปตันทีมจอมแกร่งของทีม “กระต่ายแก้ว”บางกอกกล๊าส เอฟซี เหมือนเคย ทั้งที่ อำนาจ โชว์ฟอร์มให้ต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม คงเส้นคงวา และได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเต็งหามของนักเตะกองหลังยอดเยี่ยมศึกไทย พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

ส่วนผู้เล่นคนอื่นที่เหลือ มีรายชื่อ ดังนี้ ผู้รักษาประตู สินทวีชัย (โกสินทร์) หทัยรัตนกุล , กิตติศักดิ์ ระวังป่า , กวิน ธรรมสัจจานันท์ กองหลัง สุรีย์ สุขะ , ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ , ณัฐพงษ์​สมณะ , ภานุพงศ์ วงษา , เกียรติประวุฒิ สายแวว กองกลาง สุเชาว์ นุชนุ่ม , ดัสกร ทองเหลา ,สุรัตน์ สุขะ,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,สุธี สุขสมกิจ,ณรงค์ชัย วชิรบาล,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา , ธีรเทพ วิโนทัย , พิพัฒน์ ต้นกันยา และ อานนท์ สังสระน้อย

ขณะเดียวกันในส่วนของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่มี “บังมาด”สามารถ มะลูลีม เป็นผู้จัดการทีม และ สตีฟ ดาร์บี้ เป็นเฮดโค้ชนั้น ก็ได้มีการประกาศรายชื่อนักเตะออกมาแล้วเช่นกัน ทั้งหมด 30 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มี 3 คน ที่มีชื่อติดทั้ง 2 ทีม คือ ซีเกมส์และชุดใหญ่พร้อมกัน คือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งของทีม เมืองทองฯยูไนเต็ด เกียรติประวุฒิ สายแวว กองหลังคนดังของ ชลบุรี เอฟซี และ “เจ้ามุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกตัวกลั่นของทีมกิเลนผยอง

โดยแข้งซีเกมส์ที่เหลืออีก 27 คน ได้แก่ ผู้รักษาประตู ทศพร ศรีเริง,อุกฤษ์ วงศ์มีนา กองหลัง สุทธินันท์ พุกหอม,ปิยะชาติ ถามะพันธ์,สุจริต จันทกล,ธีราทร บุญมาทัน,พลวัฒน์ วังฆะอาด,เจษฎากรณ์ เหมแดง,อาทิตย์ ดวงสว่าง กองกลาง อดุลย์ หละโสะ , อรรถพงษ์ หนุูพรหม,อาทิตย์ สุนทรพิธ,ภานุวัฒน์ จินตะ,เกรียงไกร พิมพ์รัตน์,อภิภู สุนทรพนาเวช,พิชิต ใจบุญ,สุมัญญา ปุริสาย,คัพฟ้า บุญมาตุ่น,อนาวิน จูจีน,จีระวัฒน์ มัครมย์,สุรเชาฐ์ งามทิพย์,อาลีฟ เปาะจิ กองหน้า ศุภพร พรหมนิจ , กีรติ เขียวสมบัติ , สมปอ สอเหลบ,อิสระพงษ์ ลีละคร และ ชรินทร์ บุตรฮาด

ซึ่งนักเตะทีมชาติไทยทั้ง 2 ชุด ที่มีรายชื่อดังกล่าวข้างต้น จะต้องมารายงานตัว พร้อมหนังสือเดินทาง ในวันจันทร์ที่ 5 ต.ค.นี้ เวลา 10.30 น.ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน พร้อมทั้งร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว “แมคโดนัลด์” ผู้สนับสนุนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยรายใหม่ ในเวลา 13.30 น. วันเดียวกันด้วย

ข้อมูล www.thairath.co.th

"ซิโก้" ชี้ฉลามสดไม่เท่ากิเลนแต่ขอสู้ถวายหัว


เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชชลบุรี เอฟซี ยอมรับก่อนเกมช้างชนช้างกับ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้ว่าคงสู้เรื่องความสดไม่ได้ แต่ยืนยันว่าขอสู้แบบถวายหัวแน่นอน เพื่อลุ้นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจนถึงหยดสุดท้าย

ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เดินทางมาถึงไคลแมกซ์สำคัญสำหรับการชี้ชะตาทีมแชมป์ในนัดที่ 27 วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมนี้ ซึ่งจ่าฝูง “กิเลนผยอง” ที่มีอยู่ 55 คะแนนเตรียมเฝ้ารังธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ต้อนรับทีมอันดับ 2 “ฉลามชล” ที่ตามหายใจรดต้นคออยู่เพียงแค่แต้มเดียว

โดย เดอะ ชาร์ค ซึ่งเพิ่งอกหักมาในรายการเอเอฟซี คัพ ด้วยการบุกไปพ่าย บินห์ เยือง ทีมจากเวียดนามในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง 0-2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นเล็กน้อยโดย สุรีย์ สุขะ แบ็กขวาจอมบุกยังติดโทษแบนอีกเกม ส่วน เอกพันธ์ อินทเสน ตัวริมเส้นขาลุยยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตจากที่บาดเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้ายจนพักฟื้นมา 3 สัปดาห์ แม้ว่าจะกลับมาลงซ้อมได้บ้างแล้วก็ตาม

ด้าน เกียรติศักดิ์ กุนซือทีมดังจากเมืองน้ำเค็มกล่าวถึงสภาพความพร้อมว่า “เกมนี้มีความหมายกับเราอย่างยิ่งจึงต้องจัดตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดและสมบูรณ์พร้อมที่สุดลงไป แต่เรื่องความสดคงสู้พวกเขาไม่ได้ เพราะเราก็เพิ่งเดินทางกลับมา อย่างไรก็ตาม แม้ เมืองทองฯ จะกำลังดีวันดีคืนแต่เรายืนยันว่าจะสู้ให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน”

สำหรับในรายของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่ฉีดยาชาระงับอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายลงเฝ้าเสาในแมตช์วันพุธที่ผ่านมาก็ยังไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทว่า “ซิโก้” อาจต้องเข็นลงสนามโดยพูดถึง “หนุ่มตี๋” ว่า “ถึงแม้จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่ามีใจอยากจะเล่น ซึ่งเกมกับ บินห์ เยือง ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะการป้องกันลูกยิงจ่อๆ ได้หลายหน ผมคิดว่าเขาควรได้รับโอกาสอีกครั้ง”

ในส่วนของ โคเน โมฮาเหม็ด หัวหอกชาวไอวอรีโคสต์ซึ่งบาดเจ็บข้อเท้าต้องรอประเมินสภาพร่างกายเช่นกัน แต่หากลงล่าตาข่ายไม่ได้ก็ยังมี ฌองมาร์ค เบนี กับ โจอิลสัน โรดริเกซ ดา ซิลวา เป็นตัวทดแทนอยู่ ขณะที่รายอื่นๆ อาทิ เกียรติประวุฒิ สายแวว, อดุลย์ หละโสะ, อาทิตย์ สุนทรพิธ, ไมเคิล เบิร์น และ พิภพ อ่อนโม้ ไม่มีปัญหาพร้อมลงฟาดแข้งทั้งหมด

ข้อมูล www.manager.co.th

“โค้ชแต๊ก” รับ บิ๊กแมตช์กับชลบุรี ใครพลาดชวดแชมป์


“โค้ชแต๊ก” อรรถพล บุษปาคม เฮดโค้ชของทีม 'กิเลนผยอง' เมืองทองฯ ออกมาเผยเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์กับ ชลบุรี หากใครพลาดมีโอกาสชวดแชมป์สูง ด้านการไฟฟ้าฯรับเวลานี้เป็นรองสิงห์เจ้าท่าเก็บ 1 แต้มถือว่าพอใจแล้ว ขณะที่ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สตาฟฟ์โค้ชของทีม โอสถสภา ทีมอันดับ 5 ของตารางไทยพรีเมียร์ลีก สุดมั่นเล่นในบ้านไม่มีแพ้แน่ พร้อมชูกองเชียร์ชาวสระบุรีสร้างขวัญและกำลังใจได้เยอะ

ในวันพฤหัสที่ 1 ตุลาคม 2552 มีงาน "MEET THE PRESS" แถลงความพร้อมก่อนแข่ง ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 27 ณ ที่ทำการสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีการจัดแถลงข่าวทุกสัปดาห์ เพื่อยกระดับลีกไทยสู่มาตรฐานสากล โดยเชิญผู้เล่น และโค้ชจาก 3 คู่ใหญ่ของแต่ละสัปดาห์มาพูดคุยเกี่ยวกับความพร้อมด้านต่างๆของทีม

สำหรับวีคนี้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก มีคิวลงสนาม ครบทั้ง 16 ทีม โดยสัปดาห์นี้ แบ่งเป็น 2 วัน เสาร์-อาทิตย์เช่นเคย โดยเลือกนำ 3 คู่เอก มาแถลงความพร้อมดังต่อไปนี้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี , การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. พบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ โอสถสภา เอ็ม 150 พบ ราชนาวี ระยอง โดยเริ่มที่โค้ช "แต๊ก" อรรถพล บุษปาคม เฮดโค้ชของทีม 'กิเลนผยอง' เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยลีก ณ เวลานี้ ออกมาเผยในการเตรียมความพร้อมล่าสุดของทีม ว่า "นัดพบกับทีมชลบุรี ถือว่าเป็นนัดสำคัญจริงๆ หากใครแพ้มีโอกาสชวดแชมป์สูง ชลบุรีเป็นทีมที่เล่นด้วยยาก เพราะเต็มไปด้วยผู้เล่นมีประสบการณ์สูง และมีเกมรุกที่ดี คงต้องสั่งลูกทีมเล่นอย่างรัดกุมสุดๆ เชื่อว่าเป็นเกมที่บรรดากองเชียร์ทั้ง 2 ทีมจะได้ลุ้นกันสนุกอย่างแน่นอน"

สำหรับคู่ การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. พบกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ทองสุข สัมปหังสิต โค้ชใหญ่ของทีมการไฟฟ้าฯ ทีมอันดับเก้าของตาราง ออกมาพูดถึงเกม ไปเยือน สิงห์เจ้าท่า ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ว่า "ยอมรับว่าลูกทีมเป็นรอง ทีมท่าเรือ แต่เกมนี้ได้ตัวหลักอย่าง ณรงค์ชัย วชิรบาล กลับมา จะทำให้แดนกลางมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากได้ 1 แต้มกลับบ้านก็ถือว่าพอใจแล้ว "

ส่วนทีมเจ้าบ้าน เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง ผู้จัดการทีมสิงห์เจ้าท่า เผยถึงเกมนี้ว่า "ลูกทีมเต็มที่ทุกนัด โดยเฉพาะยามเล่นในบ้าน แต่ต้องยอมรับว่าเป้าหมายของทีมจริงๆอยู่ที่ถ้วย เอฟ.เอคัพ โดยในลีกขอติด 1ใน 5 ก็ถือว่าน่าพอใจสำหรับฤดูกาลนี้แล้ว"

ส่วนคู่เอกอีกหนึ่งคู่ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ทีมอันดับห้าของตาราง เปิดบ้านพบกับ ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตารางที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น โดย นาวาโท บุญธรรม พันธุ์นุช ผู้ช่วยโค้ชทีมดังจากถิ่นระยอง เผยว่า “ยอมรับว่าถึงเวลานี้ทีมยังไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่อยากให้ลูกทีมเล่นกันอย่างเต็มที่ ขอให้มีแต้มไว้ก่อน 1 แต้มเวลานี้ถือว่าสำคัญมาก”

ด้าน ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สตาฟฟ์โค้ชของทีม โอสถสภา ที่รั้งอันดับ 5 บนตารางไทยพรีเมียร์ลีกเวลานี้ออกมาเผยว่า "ยอมรับว่าลูกทีมกำลังอยู่ในช่วงล้า แต่ได้กำลังใจดีมาทดแทน จากเกมที่เอาชนะบางกอกกล๊าส มาได้ในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมนี้ได้เล่นในบ้าน ผมมั่นใจว่าลูกทีมจะสามารถคว้า 3 แต้มได้ เพราะได้เสียงเชียร์ชาวสระบุรีเป็นกำลังใจอย่างล้นหลาม"

โปรแกรมการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2009 นัดที่ 27 มีดังนี้

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2552
16.00 สมุทรสงคราม เอฟซี - พัทยา ยูไนเต็ด สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสงคราม

16.00 จุฬา ยูไนเต็ด - ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร สนาม จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

17.00 ทีโอที เอฟซี - นครปฐม เอฟซี สนาม ธันเดอร์โดมฯ เมืองทอง

18.00 ศรีราชา เอฟซี - บีอีซี-เทโร ศาสน สนาม สิรินธร

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552
16.00 โอสถสภา เอ็ม 150 - ราชนาวี ระยอง สระบุรี

17.00 บางกอกกล๊าส เอฟซี - Bangkok United สนาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง6

17.00 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - ชลบุรี เอฟซี สนาม ธันเดอร์โดมฯ เมืองทอง

17.00 การท่าเรือไทย เอฟ.ซี. - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สนาม การท่าเรือ คลองเตย

ข้อมูล www.manager.co.th